โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 242 ความสนิทสนมจากหลี่จื่อเชียน

บทที่ 242 ความสนิทสนมจากหลี่จื่อเชียน

เป้ยฉ่ายเวยรับของที่อยู่ในมือรุ่ยรุ่ยมาถือไว้ ชั่งน้ำหนักถุงที่ถืออยู่ดูด้วยมือเปล่าพูดขึ้นว่า “เธอกินคนเดียวแต่ซื้อเยอะขนาดนี้เลยหรอ เธอเป็นหมูหรือไงซือซือ?”

“ฉันคิดถึงพวกแกเลยซื้อมาฝากไม่ได้หรอ” อวี๋ซือซืออาศัยช่วงที่คนอื่นไม่ได้สังเกต มองค้อนใบหน้าน่ารักที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ใครให้เธอเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดในแผนการนี้ล่ะ

ฉูเจ๋อหยางนี่มีเงินอย่างเดียวแต่ขาดสมองหรอ? เด็กตัวเล็กๆคนเดียวจะกินเคเอฟซีถุงเบอเริ่มคนเดียวหมดได้ยังไง ถึงได้สั่งมาทั้งเซ็ตแบบนี้

ขณะเดียวกัน ณ ห้องทำงานของบริษัทกฎหมายติ่งเซิ่ง หลินไห่ที่กำลังทำงานอยู่ก็จามออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ “ใครกันนะที่นินทาคนอื่นลับหลังกลางวันแสกๆแบบนี้”

เขาได้รับคำสั่งให้ไปซื้อเคเอฟซี ตอนแรกก็ทึ่งๆอยู่เหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าบอสที่ไม่เคยมีความสนใจต่อของทอด อยู่ๆก็อยากกินขึ้นมา แต่เขาเป็นเลขาและลูกน้องที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ดังนั้นจึงสั่งมาเซ็ตใหญ่ให้บอสของเขาได้เลือกกินเอาเอง

อวี๋ซือซือเหลือบมองรุ่ยรุ่ย เป้ยฉ่ายเวยไม่ทันเห็น

แต่หลี่จื่อเชียนที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆกลับสังเกตเห็น เขารู้ว่าอวี๋ซือซือำลังโกหก แต่ก็ไม่รู้ว่ากำลังปิดบังเรื่องอะไรไว้ เขายังไม่ได้คิดไปถึงเรื่องนั้น

“เวยเวย ให้รุ่ยรุ่ยกับซือซือเข้าไปพักก่อนเถอะ ทำตัวคุ้นเคยกับที่นี่ได้ตามสบายเลยนะ ฉันให้คนใช้จัดห้องให้รุ่ยรุ่ยเป็นพิเศษด้วยล่ะ ให้เขาไปดูว่าชอบไหม ถ้าไม่ชอบเดี๋ยวฉันจะบอกให้คนมาเปลี่ยนให้เร็วที่สุดเลย”

เป้ยฉ่ายเวยไม่คิดว่าจื่อเชียนจะยังคิดถึงคนอื่นอย่างเธอกับลูกขนาดนี้ พวกเธอแค่ขออาศัยอยู่ไม่กี่วันเอง เขายังจะตั้งใจเตรียมต้อนรับไว้เป็นอย่างดีอีก จนเธอรู้สึกเกรงใจเลย “จื่อเชียนที่จริงนายไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้นะ รุ่ยรุ่ยพักห้องเดียวกับฉันก็ได้”

อวี๋ซือซือไม่ได้พูดอะไรอออกมา มือทั้งสองสอดเข้ากระเป๋ากางเกงด้วยทาทีสบายๆ แต่ความเป็นจริงกลับบ่นอุบอิบอยู่ในใจ หลี่จื่อเชียนนี่ก็เอาเรื่องอยู่นะ จัดให้รุ่ยรุ่ยนอนอีกห้อง เพื่อที่ตัวเองจะได้หาโอกาสจากจุดนี้ คงคิดคำนวณไว้แล้วว่าตัวเองจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง

“ไม่เป็นไร ถ้ารุ่ยรุ่ยไม่ชอบ ให้อยู่ห้องเดียวกับเธอก็ได้” หลี่จื่อเชียนพูดอย่างสบายๆ ดูเหมือนจะเป็นความปรารถนาดีของเขาจริงๆ ไม่มีความคิดอื่นใดแอบแฝงอยู่

เพื่อนๆนักเรียนชั้นอนุบาลของรุ่ยรุ่ยต่างก็มีห้องเป็นของตัวเองกันหมดแล้ว มีแค่ตัวเขาที่ยังนอนห้องเดียวกับคุณแม่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากนอนห้องเดียวกับคุณแม่ แต่เขากลัวว่าเพื่อนจะรู้เข้าแล้วล้อว่าเขาเป็นลูกแหง่

จึงเริ่มออกปากเองว่า “แม่ครับ ผมอยากนอนคนเดียว”

เป้ยฉ่ายเวยอึ้งไปนิด คิดไม่ถึงว่ารุ่ยรุ่ยอยากจะอยากนอนคนเดียว แต่เมื่อลองคิดถึงนิสัยที่รักศักดิ์ศรีของลูก เธอก็ยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยนพูดขึ้นว่า “ได้ครับ รุ่ยรุ่ยของแม่คงโตเป็นหนุ่มแล้ว”

“รุ่ยรุ่ยครับ งั้นเดี๋ยวลุงหลี่จะพาหนูไปดูห้องนะ” หลี่จื่อเชียนเผยรอยยิ้มเป็นกันเองออกมา ย่อกายลงยื่นมือไปทางเด็กน้อย

รุ่ยรุ่ยก้มมองมือใหญ่ที่ดูอบอุ่นและสะอาดสะอ้าน ไม่เหมือนมือใหญ่ที่ดูหยาบกร้านของคุณพ่อเลย ผ่านไปสักพักเด็กน้อยก็มองดวงตาที่เจือรอยยิ้มของหลี่จื่อเชียน สุดท้ายก็พยักหน้า วางมือเล็กๆของตัวเองไว้บนมือใหญ่ของเขา

ยิ้มหวานๆออกมา แล้วพูดออกมาว่า “ครับผม”

ถ้าเป็นแบบนี้แล้วแม่จะมีความสุข เขาก็จะเรียนรู้มันไปด้วย อีกอย่างก็ดูเหมือนว่าคุณลุงหลี่ก็ดีกับคุณแม่มากๆ ไม่เหมือนคุณพ่อที่ทำให้คุณแม่เสียใจอยู่ตลอด เขาจะไม่คิดถึงผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว

หลี่จื่อเชียนกุมมือนุ่มนิ่มเล็กๆไว้ จากนั้นก็พาเดินเข้าไปในบ้าน ต้องยอมรับจริงๆว่าเด็กคนนี้น่ารักจนทำให้อยากดูแลเขาดีๆ

“รุ่ยรุ่ยชอบหนังสือไหม?”

เมื่อพูดถึงหนังสือ ดวงตากลมโตบ๊องแบ๊วของรุ่ยรุ่ยก็เป็นประกายขึ้นมาทันที รอยยิ้มบนหน้าก็กว้างขึ้น “ชอบครับ”

“ในบ้านมีห้องอ่านหนังสือด้วยนะ ถ้าหนูชอบก็ไปอ่านได้ตามสบายเลยนะ” หลี่จื่อเชียนเห็นรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ของเด็กน้อย ก็พูดขึ้นด้วยเสียงเล็กเสียงน้อย

“ขอบคุณคุณลุงหลี่นะครับ” เมื่อได้ยินว่ามีห้องอ่านหนังสือ รุ่ยรุ่ยก็ปกปิดความดีใจในดวงตาไว้ไม่ได้เลย แม้ว่าที่บ้านจะมีชั้นหนังสือเล็กๆอยู่ แต่ว่าเมื่อเทียบกับห้องอ่านหนังสือแล้ว ชั้นอ่านหนังสือของเขาก็เทียบไม่ติดเลยล่ะ เขาอยากมีห้องอ่านหนังสือเป็นของตัวเองมาตั้งนานแล้ว

หลี่จื่อเชียนยิ้มบางๆ เด็กน้อยดูถูกใจมากๆ เขาเชื่อว่าเขาจะสนิทกับรุ่ยรุ่ยได้แน่ๆ

อวี๋ซือซือมองหลี่จื่อเชียนจูงมือพารุ่ยรุ่ยเดินเข้าไปข้างใน ก็พูดขึ้นอย่างล้อๆว่า “เวยเวย ฉันว่านะหลี่จื่อเชียนก็มีคุณสมบัติในการเป็นพ่อที่ดีเหมือนกันนะ ทั้งอ่อนโยนทั้งรับมือกับเด็กเป็น รุ่ยรุ่ยก็ดูชอบมากด้วย แกจะไม่ใจอ่อนจริงหรอ”

“พูดไร้สาระอะไรเนี่ย ถ้าไม่ใช่เพราะความปลอดภัยของรุ่ยรุ่ย ฉันก็ไม่คิดที่จะมารบกวนจื่อเชียนหรอกนะ” เป้ยฉ่ายเวยมองบนใส่เพื่อนสนิท พูดแต่เรื่องนี้อยู่ได้ ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงนะ

คำพูดของเป้ยฉ่ายเวยทำให้อวี๋ซือซือถอนหายใจออกมาอย่างเล่นใหญ่ “ฉันก็หวังดีกับเธอทั้งนั้น ฉันก็แค่สงสารคนบางคนที่อกหักรักคุดมาล่ะนะ”

“เอาล่ะๆ เธอหยุดพูดอะไรไปทั่วได้แล้ว ถ้าไม่เข้ามาฉันจะปิดประตูละนะ” เป้ยฉ่ายเวยส่ายหัวไม่ได้สนใจคำพูดหยอกล้อของเธอ หันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้านอย่างไม่สนใจ

อวี๋ซือซือรู้สึกหมดสนุก เขี่ยจมูกไปมาแล้วเดินตามเข้าไป วันนี้เธอไม่ได้แค่มาฝากท้องที่บ้านของหลี่จื่อเชียนหรอกนะ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอคือมาเพื่อแอบถ่ายรูป แน่นอนอยู่แล้วว่าก่อนจะถ่ายรูปเธอก็ต้องพารุ่ยรุ่ยหลบออกจากสองคนนั้นก่อน

การตกแต่งภายในบ้านไม่ได้ตกแต่งหรูหราเท่าไหร่ การตกแต่งภายในจะเป็นแบบโทนอบอุ่นๆเสียมากกว่า ดูแล้วก็ช่างดูเป็นบ้านที่อบอุ่นเอามากๆ

เป้ยฉ่ายเวยใส่ผ้ากันเปื้อนจัดเตรียมอาหารอยู่ในครัว อวี๋ซือซือเดินดูรอบๆบ้านอยู่คนเดียว สำรวจไปก็พยักหน้าพร้อมทำเสียงจิ๊จ๊ะไปด้วย หลี่จื่อเชียนนี่ก็ทุ่มไปเยอะจริงๆ ทำการบ้านมาดี ถึงได้ตั้งใจจัดบ้านใหม่เป็นพิเศษแบบนี้ แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ยังเปลี่ยนใหม่เลย

รูปแบบลวดลายต่างเป็นสไตล์ที่เวยเวยชอบทั้งนั้น

เมื่อคิดถึงจุดประสงค์ที่มาในวันนี้ อวี๋ซือซือก็หัวเราะหึๆอยู่ในลำคอ ล้วงหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ามาปิดเสียงปิดแฟลช เดินตรงไปทางห้องครัว จากนั้นถ่ายรูปติดกันรัวๆ

แต่ยังไม่พอ เธอขยับกล้องเข้าไปใกล้อีกนิด ซูมกล้องไปที่เพื่อนสนิท จากนั้นก็กดถ่ายรัวๆ

ถ่ายเสร็จยังตั้งใจคัดเลือกรูป รูปไหนไม่เป็นที่น่าพอใจก็ลบทิ้ง และแน่นอนมันยังไม่พอ เธอยังรอพระเอกลงมาร่วมเฟรมด้วย

รุ่ยรุ่ยยังไม่ลงมาจากชั้นบน แต่กระนั้นก็ยังได้ยินเสียงใสๆของเด็กน้อยที่ดูตื่นเต้นอยู่ลางๆ “คุณลุง ในห้องหนังสือมีหนังสือเยอะมากเลยครับ คุณลุงได้อ่านหมดหรือยังครับ?” หลี่จื่อเชียนพูดขึ้นด้วยเสียงนุ่มๆ “รวมๆก็เหมือนจะอ่านหมดแล้วนะ ข้างในนั้นยังมีพจนานุกรมอธิบายศัพท์พื้นฐานด้วยนะ ถ้าหนูไม่เข้าใจคำไหนก็เปิดดูได้ หรือไม่ก็มาถามลุงได้” “คุณลุงเก่งจังเลย” รุ่ยรุ่ยอดที่จะทึ่งไม่ได้ หนังสือเยอะแยะบนชั้นหนังสือนั่นคุณลุงอ่านหมดแล้วไม่รู้ใช้เวลาไปมากเท่าไหร่ หลี่จื่อเชียนยิ้มยกมือขึ้นลูบหัวของเด็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป“รุ่ยรุ่ย มานี่มา เดี๋ยวป้าพาไปดูทีวี” อวี๋ซือซือยื่นมือออกไปเรียกรุ่ยรุ่ยให้รีบมาหาลุ่ยรุ่ยมองอวี๋ซือซือที่ดูตื่นเต้นแปลกๆอย่างสงสัย แต่ก็ก้าวขาสั้นๆของตัวเองเดินเข้าไปหา เสียงเล็กๆของเขาถามคุณป้าขึ้นว่า “คุณป้าคิดจะทำอะไรแผงๆอีกแล้วใช่ไหมครับ” “บ้า ป้าออกจะใสซื่อขนาดนี้ จะไปทำอย่างนั้นได้ยังไงกัน” ลุ่ยลุ่ยบู้ปากเล็กๆสีชมพูนั่น พูดว่า “คุณป้าโกหกจมูกจะยาวนะครับ”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์