โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 252 ผู้หญิง “มือเปล่า”

บทที่ 252 ผู้หญิง “มือเปล่า”

เมื่ออวี๋ซือซือเห็นผู้ชายคนที่เดินออกมา ก็สติหลุดไปนิดหน่อย แต่เมื่อได้ยินคำพูดของพี่อู่ สติก็กลับมาในทันที พูดอย่างเลือดร้อนว่า “แม่ง พูดไม่เป็นคำพูดนี่หว่า เวยเวยไปกันเถอะ”

“เป็นสิ ฉันก็ว่าฉันพูดชัดแล้วนะ” พี่อู่พูดพร้อมยกไหล่ขึ้นอย่างไม่รู้สึกรู้สา “ใช่ไหมครับ เฮียเสิ่น”

“เฮียเสิ่นงั้นหรอ คงไม่ใช่.......”อวี๋ซือซือหยุดพูดไปในทันที คนที่ชื่อเฮียเสิ่นคงไม่ใช่ว่าเป็นพี่ชายของหัวหน้าเก่าเธอที่ชื่อว่าเสิ่นลั่งหรอกนะ แบบนี้ก็คงโลกกลมเกินไปละ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงตระกูลเสิ่น ก็แค่ยังไม่เคยเจอผู้ชายที่พวกเขาบอกว่าโหดนักโหดหนาสักครั้ง

เธอก็นึกว่าจะเป็นผู้ชายวัยกลางคนที่หยาบคายๆหน่อย แต่หน้าตากลับไปคนละทางเลย

“คนสวยนี่ก็รอบรู้จริงๆเลยนะ” พี่อู่ไม่ลืมที่จะยกยอแล้วขยิบตาให้เธอ

จนอวี๋ซือซือต้องมองบนใส่

พวกเขาทั้งสองคุยกันอยู่สองคน แต่ตัวหลักอย่างเสิ่นลั่งกลับเอาแต่จ้องมองเป้ยฉ่ายเวย นี่คงเป็นผู้หญิงที่ฉูเจ๋อหยางสนใจสินะ ตัวเล็กมาก ดูๆแล้วไม่น่าสูงถึงไหล่ของเขาด้วยซ้ำ รสนิยมของฉูเจ๋อหยางนี่ก็แปลกดีเหมือนกัน

ครั้งแรกที่เห็นเธอก็คือในรูปภาพ หน้าตาดูไร้ที่ติอย่างที่คิดจริงๆ เห็นทีแรกก็คิดว่าเป็นแค่หนูแฮมเตอร์ที่ขี้กลัวตัวหนึ่ง แต่สุดท้ายก็พบว่าที่แท้ก็แมวป่าที่พร้อมตะปบดีๆนี่เอง

“อยากออกไป?” เสียงน่าดึงดูดของชายหนุ่มดังขึ้น

เป้ยฉ่ายเวยบีบมือไว้แล้วพยักหน้า “อืม ขอโทษคุณเสิ่นด้วยนะคะ พวกเราไม่รู้ว่านี่เป็นห้องของคุณเลยก่อเรื่องขึ้น หวังว่าคุณจะยกโทษให้”

“แล้วถ้าฉันไม่ยกโทษล่ะ” เสิ่นลั่งย้อนถามโดยที่แววตาไม่มีแวววูบไหวใดๆ

เป้ยฉ่ายเวยกดดันขึ้นมาทันที เธอคิดไม่ถึงว่าเสิ่นลั่งจะถามตรงไปตรงมาขนาดนี้ ตอบกลับด้วยท่าทีที่ทำเป็นนิ่งๆว่า “ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงคุณเสิ่นถึงจะยอมปล่อยพวกฉันไปหรอคะ”

เมื่ออวี๋ซือซือเห็นสายตาของเสิ่นลั่งที่จ้องมองเป้ยฉ่ายเวย ก็รีบเดินไปยืนบังสายตาจากเสิ่นลั่งเอาไว้ ยิ้มหึๆพูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ฉันรู้ว่าคนใหญ่คนโตอย่างคุณคงไม่คิดจะเอาเรื่องกับผู้หญิงตัวเล็กๆมือเปล่าแบบพวกเราสองคนหรอกใช่ไหมคะ?”

เธอจงใจเน้นคำว่า ‘มือเปล่า’ เพื่อบ่งบอกว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์และอ่อนแอ

ถ้าไม่ใช่ว่ามีเสิ่นลั่งอยู่ด้วย อาเหมาคงพลั้งปากด่าออกไปชุดใหญ่แล้ว ผู้หญิง ‘มือเปล่า’ ที่ไหนถีบผู้ชายสูงเกือบร้อยเก้าสิบล้มได้ ไม่ใช่แค่มือเปล่าไร้อาวุธแต่เป็นมือคิงคองต่างหาก

พี่อู่ที่อยู่ข้างๆได้ยินก็หัวเราะคิๆออกมา เมื่อได้รับสายตาทิ่มแทงมองมา ก็หุบปากอย่างรู้ตัว แต่ดวงตาก็ยังมีแววขำขันอยู่ เขาคิดว่าผู้หญิงมือเปล่าไม่มีอาวุธเทียบกับผู้หญิงที่ดูอ่อนนอกแข็งในแล้วท่าจะสนุกขึ้นเยอะ

“นั่งพักก่อนแล้วค่อยไปก็ไม่สายหนิ” เสิ่นลั่งมัดมือชกแทนเป้ยฉ่ายเวยเอาซะเลย ฉูเจ๋อหยางสนใจผู้หญิงคนนี้มากไม่ใช่หรือไง เขาอยากรู้ว่าฉูเจ๋อหยางสนใจตรงไหนของเธอกัน หรือจะเป็นตรงท่าทางเหมือนแมวน้อยที่แกล้งทำเป็นนิ่งๆไม่สะทกสะท้านอะไรนี่

เมื่อพูดถึงแมว ก็ทำให้เขานึกไปถึงน้องชายต่างแม่ ที่เหมือนจะเป็นทาสแมว ไม่รู้ว่าคุยกับคนพวกนั้นที่อยู่อีกห้องไปถึงไหนแล้วบ้าง

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เสิ่นลั่งก็ยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ

เป้ยฉ่ายเวยเห็นอย่างนั้น ก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของผู้ชายตรงหน้า เขาต้องเป็นพวกที่ชอบลงมือลุยแน่ๆ “ขอบคุณคุณเสิ่นค่ะ แต่พวกเรามาหาคน ไม่อยู่รบกวนคุณดีกว่า”

“คุณเข้าใจที่ผมพูด คุณเป้ย” เสิ่นลั่งเหลือบมองเธอ ไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป

เป้ยฉ่ายเวยใจกระตุกวูบขึ้นมา เธอก็ไม่เคยบอกนามสกุลของตัวเองนะ เมื่อกี้ซือซือก็พูดแค่ชื่อเล่นเธอ แล้วเขารู้นามสกุลเธอได้ยังไง หรือว่าผู้ชายคนนี้เคยสืบเรื่องของเธอมาก่อน

แต่แบบนี้มันก็ไม่เข้าเค้าอยู่ดีไม่ใช่หรอ เธอแน่ใจว่าตัวเองไม่เคยเจอเขามาก่อนเลย

เธอพยายามแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจที่เขาพูดต่อไป แต่ก็ไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะเอาจริงเอาจังขนาดนี้ ถึงขนาดคิดที่จะให้พวกเธออยู่ต่อด้วยจริงๆ

อวี๋ซือซือยิ่งไม่ยอมใหญ่ คืนนี้เธอเรียกเวยเวยออกมาจับชู้เป็นเพื่อนเอง ยังไม่ทันได้จับใครได้เลย จะให้เวยเวยเดือดร้อนไปด้วยไม่ได้

ในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนเธอต้องรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของเวยเวยให้ดี “ในเมื่อคุณเสิ่นพูดมาขาดนี้แล้วเราคงยากที่จะปฏิเสธ งั้นพวกเราก็คงต้องอยู่ต่อนั่นล่ะค่ะ”

เป้ยฉ่ายเวยอึ้งไปอยากจะเอ่ยปากพูดอะไร ก็ถูกอวี๋ซือซือส่งสายตาห้ามไม่ให้พูด เธอยิ้มหยีพูดต่อว่า “ไม่ทราบว่าคุณเสิ่นจะว่าอะไรไหมถ้าพวกเราจะขอไปเติมหน้าสักหน่อย”

คำที่เธอพูดแฝงความหมายนัยๆ ความหมายที่เธอจะสื่อคร่าวๆก็คือ ดิฉันอยากไปเข้าห้องน้ำ คุณยังจะขวางอยู่ไหมคะ?

พี่อู่พูดขึ้นอย่างใจดีว่า “ไม่ว่าอยู่แล้ว ในห้องนี้มีห้องน้ำในตัว เชิญคนสวยตามสบายเลย ถ้าหาทางไปไม่เจอ เดี๋ยวฉันอาสาพาไปเอง”

ในห้องนี้มืดมาก อวี๋ซือซือเลยไม่ได้สังเกตภายในห้อง มองไปตามทางที่ผู้ชายคนนั้นชี้ ก็เห็นว่ามีประตูอยู่ตรงนั้นจริงๆด้วย เพราะว่าอยู่ไกลพอสมควร ดังนั้นถ้าไม่มองดูดีๆ ก็จะไม่สังเกตเห็น

ผู้ชายคนนี้ควรไปตาย พูดมากไม่เข้าเรื่องจริงๆ

“อา ดีเลย เวยเวยไปด้วยกันปะ ไปช่วยฉันเติมหน้าหน่อย”

อวี๋ซือซือทำได้แค่พาเป้ยฉ่ายเวยไปหลบคิดหาวิธีก่อน

เป้ยฉ่ายเวยเข้าใจที่เพื่อนจะสื่อ จึงเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยกัน

เสียง ‘แกร็ก’ ดังขึ้น อวี๋ซือซือลงกลอนเสร็จสรรพ จากหน้านิ่งๆก็กลายเป็นใบหน้าร้อนรนจนแทบจะบ้า “ทำยังไงดี ถังฉีตงอยู่ห้องตรงข้าม แต่เรากลับมาติดแหงกอยู่ในนี้เนี่ยนะ”

“ซือซือ หรือว่าฉันควรโทรหาจื่อเชียนดี” เป้ยฉ่ายเวยลังเลอยู่ชั่วครู่ถึงพูดออกมา ตอนนี้มีแค่จื่อเชียนเท่านั้นที่จะมาช่วยพวกเธอออกไปได้

อวี๋ซือซือตบบ่าเธอพูดขึ้นว่า “เวยเวยแกนี่มันซื่อจริงๆ”

นั่นใคร นั่นเสิ่นลั่งนะ ในจิ่นอันเขาถือได้ว่าเป็นคนมีอิทธิพลที่สามารถเรียกลมเรียกฝนได้ง่ายๆเลย แม้พื้นเพของจื่อเชียนเองก็ไม่ใช่เล่นๆเหมือนกัน แต่ก็ต้องคิดเยอะๆ จะไปขัดใจตระกูลเสิ่นเพียงเพราะเธอแค่คนเดียวไม่ได้

เป้ยฉ่ายเวยเข้าใจความหมายของอวี๋ซือซือ ถึงเธอจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานะของตระกูลเสิ่น แต่ดูจากท่าทีของเพื่อนสนิทแล้ว ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าคนๆนั้นเป็นคนที่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง เธอเองก็ไม่อยากทำให้จื่อเชียนลำบากไปด้วย “แล้วพวกเราจะออกไปยังไงดี แล้วใครใช้ให้เธอไม่พกโทรศัพท์มาด้วยเนี่ย” “.........” อวี๋ซือซือจะพูดอะไรได้ เธอทำได้แค่เดินสะเปะสะปะไปทั่วอยู่ในห้องน้ำเหมือนแมลงวันไร้หัว เธอล่ะอยากจะปีนช่องระบายอากาศหนีลงไปจริงๆ เมื่อลองมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็รีบถดตัวถอยออกมาแทบจะเป็นลม ให้ตาย นี่มันชั้นแปดนี่นา ข้างๆแม้แต่ที่จะให้จับก็ไม่มี ถ้าตกลงไปแล้วไม่แบนเป็นแพนเค้กสิถึงจะแปลก คาดว่าพาดหัวข่าวในวันพรุ่งนี้คงเป็น สลด หญิงสาวไม่เจียมตัวดิ่งลงชั้นแปดกะโหลกกระแทกพื้นเป็นหลุมลึกเลือดสาดกระจายเป็นวงกว้างตอนนั้นเอง ที่เสียงเคาะประตูด้านนอกดังขึ้นอย่างเนิบๆ ตามมาด้วยเสียงที่แสดงความ ‘เป็นห่วงและหวังดี’ ของผู้ชายดังขึ้น “ไม่มีอะไรให้ช่วยจริงๆหรอ”เป้ยฉ่ายเวยชี้โทรศัพท์ บ่งบอกว่าพวกเธอเข้ามาในนี้สิบห้านาทีแล้ว มิน่าล่ะคนที่อยู่ข้างนอกถึงได้เร่งนัก อวี๋ซือซือออดโมโหไม่ได้ ตวาดใส่คนหน้าประตูว่า “ช่วยไสหัวไปไกลๆหน่อยได้ไหม? เดี๋ยวพวกฉันก็จะออกไปแล้ว”ผู้ชายที่อยู่ข้างนอกไม่เพียงไม่โกรธ ทั้งยังหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ “ฉันรออยู่นะ”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์