โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 254 ไม่ใช่แค่เหล้าแรงๆน่ะสิ

บทที่ 254 ไม่ใช่แค่เหล้าแรงๆน่ะสิ

เมื่อคนอื่นๆเห็นสภาพตาเหลือกตาลานของเป้ยฉ่ายเวย ก็หัวเราะครืนขึ้นมาเสียงดังทั้งห้อง ทั้งยังมีเสียงหัวเราะคิๆของเหล่าผู้หญิงผสมปนเปมาด้วย

แต่แค่เสิ่นลั่งขมวดคิ้ว คนพวกนั้นก็เหมือนถูกกดกล่องเสียงเอาไว้รีบเงียบเสียงในทันที ไม่กล้าหัวเราะเยาะเป้ยฉ่ายเวยอีก

เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าเหล้าแรงๆที่ราคาแพงพวกนี้โดยปกติแล้วต้องผสมก่อนดื่ม แต่เพราะว่าอาเหมาไม่พอใจเธอส่วนตัว เลยตั้งใจรินให้โดยที่ไม่ผสมอะไรเลยมาให้เธอดื่ม ดังนั้นตอนนี้เธอเลยเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว จึงพ่นเหล้าออกมา แต่อีกส่วนก็ไหลลงสู่ท้องเรียบร้อยแล้ว

เธอก็เริ่มที่จะมึนหัวแล้ว ส้นเท้าก็เริ่มที่จะอ่อนปวกเปียก ไม่ได้ๆ เธอต้องยืนให้อยู่ เข่าของเธอก็เริ่มอ่อน สักพักคงล้มลงไปนั่งบนพื้นแน่ๆ แต่ทว่าก็ถูกรวบดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดซะก่อน เธอจึงล่วงลงไปอยู่บนตักของชายหนุ่ม

เมื่อสายตาราบเรียบกวาดมองทุกคน ก็เหมือนพวกเขาถูกปลดล็อก พวกเขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สนุกสนานกับการดื่มเหล้ากันต่อไป

ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าดวงตาของอาเหมาทอแววร้ายกาจออกมา ความโกรธเคืองของเขาไม่ใช่แค่เหล้าแรงๆที่ไร้ซึ่งการผสมแก้วนี้แก้วเดียวเท่านั้น เขายังใจดีใส่อะไรบางอย่างลงไปในแก้วเหล้านั้นด้วย

รับรองว่าคืนนี้ผู้หญิงคนนั้นต้องรุ่มร้อนไปด้วยไฟปรารถนา แต่ไม่รู้ว่าพอคุณเสิ่นรู้เรื่องนี้เข้า จะตบรางวัลให้เขางามๆไหม

ใช่แล้ว เขาวางยาลงในเหล้าแก้วนั้น ต่อให้เป้ยฉ่ายเวยดื่มไปแค่คำเดียว ก็เพียงพอที่จะออกฤทธิ์ ถ้าดื่มเข้าไปจนหมดแก้ว คาดว่าพรุ่งนี้คงเกือบตายเลยล่ะ

คนปกติไม่สามารถทนต้านทานยาชนิดนี้ได้หรอก ถึงยังไงยาที่เขาได้มาก็เป็นสินค้าชั้นดี ตอนแรกก็ว่าจะเอามาใช้กับผู้หญิงของตัวเองเพื่อเพิ่มความสนุกสักหน่อย ก็ถือซะว่าเขามีน้ำใจแบ่งให้เป้ยฉ่ายเวยใช้ด้วยก็แล้วกัน

เป้ยฉ่ายเวยรู้ว่าตัวเองคออ่อน ทว่าก็ไม่น่าถึงกับมึนหัวเร็วขนาดนี้ อย่าว่าแต่ดื่มไปอึกเดียวเลย ต่อให้ดื่มหมดแก้ว เธอก็ยังมั่นใจว่าเธอจะไม่เมาเร็วขนาดนี้

เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตัวเองสามารถดื่มเหล้าได้แค่ไหน แต่หลังจากดื่มเหล้าแก้วนั้นเข้าไปอึกเดียว เธอก็รู้สึกว่าทั้งร่างมันรุ่มร้อนไปหมด ปากคอแห้งผาก แต่ความรู้สึกนึกคิดก็ยังอยู่ครบถ้วน แบบนี้มันไม่เหมือนอาการของคนเมาเลย

หรือจะเป็นเพราะในห้องนี้แออัดเกินไป ก็เลยหายใจลำบาก คนเยอะขนาดนี้ ก็น่าจะเป็นไปได้

ร้อนชะมัด

พวกเขาไม่ร้อนหรือไงกันนะ? เธอร้อนจนจะระเบิดอยู่แล้ว

เป้ยฉ่ายเวยเริ่มดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองอย่างไร้สติ ทั้งยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนตักของชายหนุ่ม สายตาทอดมองเนื้อหนังของเสิ่นลั่งที่โผล่พ้นออกมาข้างนอกเสื้อโดยไม่รู้ตัว อารมณ์ชั่ววูบเอาแต่พร่ำบอกเธอ

ให้เข้าไปแนบชิดเขา แบบนั้นก็จะรู้สึกดีขึ้นแล้ว

เสิ่นลั่งก็เริ่มสังเกตเห็นอาการแปลกๆของหญิงสาวในอ้อมกอด สายตาที่มองมายังตนฉายแววสับสนในความรู้สึก ใบหน้าเล็กๆแดงผิดปกติ เขาพอรู้ว่าตัวเองหน้าตาดี ผู้หญิงที่อยากได้เขาก็เยอะจนนับไม่ไหว คนที่ยินยอมให้เขากอดเองก็มีไม่น้อยเลย

แต่ว่าตั้งแต่ตอนแรกผู้หญิงตรงหน้าก็เอาแต่มองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ดูไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเขาเลย แต่ทำไมจู่ๆตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนไปราวกับคนละคน

ไม่สิ อาการแบบนี้คือเธอโดนวางยาแน่ๆ

——เปิ้ง

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังสนั่นเกิดขึ้น เป็นเสียงประตูบานหนาที่ถูกถีบเปิดเข้ามา จากนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในห้องเป็นแถวยาวเหยียด ทำลายบรรยากาศมึนเมาภายในห้อง และยังปลุกสติเป้ยฉ่ายเวยที่กำลังจะเข้าไปนัวเนียเสิ่นลั่งด้วย

เธอตื่นจากภวังค์ ก็พบว่าเธอเกือบจะเข้าไปกอดจูบลูบคลำเสิ่นลั่งด้วยอารม์เพียงชั่ววูบซะแล้ว เธอตกใจจนหน้าแดงแต่ก็หน้าซีดในเวลาถัดมา

เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง

แต่ที่ทำให้เธอตกใจกลัวไปยิ่งกว่านั้นก็คือ ผู้ชายที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีที่ยืนอยู่หน้าประตู

———ฉูเจ๋อหยาง

เขามาที่นี่ได้อย่างไร ทันใดนั้นเธอก็คิดได้ว่าตัวเองส่งข้อความไปหาเขาตอนอยู่ในห้องน้ำ เธอก็นึกว่าจะเป็นถังฉีตงซะอีกที่มา คิดไม่ถึงเลยว่าฉูเจ๋อหยางจะมาด้วย

บรรยากาศรอบๆดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันตา

ถังฉีตงเห็นเป้ยฉ่ายเวยนั่งตัวอ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมกอดของเสิ่นลั่ง แน่นอนว่าฉูเจ๋อหยางก็ต้องเห็นแบบนั้นด้วยเหมือนกัน เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาชั่วขณะ นี่คงไม่ใช่ว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์สร้างปัญหาอีกแล้วนะ?

ในตอนที่กำลังมองหาผู้หญิงของตัวเอง เขาก็เดือดจนแทบจะเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อเห็นว่าหัวของแฟนตัวเองแทบจะชนเข้ากับหัวของผู้ชายอีกคนอยู่แล้ว

“อวี๋ ซือ ซือ”

“ห๊ะ!” เป็นครั้งแรกที่อวี๋ซือซือได้ยินถังฉีตงเรียกชื่อเธอซะเต็มยศขนาดนี้ เธอตกใจจนรีบเด้งตัวขึ้นมา แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยไอเย็นๆของฉูเจ๋อหยาง เธอก็แทบอยากจะตายภายในพริบตา

ถ้าให้ฉูเจ๋อหยางรู้ว่าเธอเป็นคนที่พาเวยเวยออกมา แล้วยังพาเวยเวยมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อีก เธอคงถูกสับแหลกเป็นชิ้นๆแน่ๆ

เมื่อคิดไปถึงเพื่อนสนิท อวี๋ซือซือก็มองไปทางเป้ยฉ่ายเวยโดยอัตโนมัติ ทันทีที่มองไป เธอก็คิดว่าเธอน่าจะโดดตึกให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยตอนที่อยู่ในห้องน้ำ

เวยเวยไปอิงแอบแนบชิดอยู่กับเสิ่นลั่งแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

“เวยเวย แกเป็นอะไรไปเนี่ย” คงไม่ใช่ว่าโดนของไปแล้วนะ อวี๋ซือซือลนลานเหมือนไฟลนตูด เธอฝืนทำเป็นไม่เห็นใบหน้าน่ากลัวราวกับจะฆ่าคนตายของฉูเจ๋อหยาง รีบดึงเป้ยฉ่ายเวยออกจากเสิ่นลั่ง

ทันทีที่จมูกได้กลิ่น ก็ขมวดคิ้วบีบจมูกถามขึ้นว่า “เวยเวย แกดื่มไปกี่แก้วเนี่ย”

ปกติบังคับให้ดื่มแทบตายก็ไม่ดื่ม ทำไมอยู่ๆถึงได้ดื่มล่ะ ได้ตายกันหมดแน่ๆ

“ฉันดื่มไม่เยอะๆ แค่อึกเดียว” เป้ยฉ่ายเวยไม่กล้ามองตาฉูเจ๋อหยาง ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มีความรู้สึกผิดแบบนี้ เหมือนกับว่าเธอคบชู้สู่ชายอื่น แล้วโดนสามีจับได้อย่างไรอย่างนั้น เธออายจนไม่มีหน้าไปมองเขาแล้ว

แต่เธอก็ไม่ได้นอกใจอะไรซักหน่อยหนิ เชอะ ถึงต่อให้เธอนอกใจแล้วเกี่ยวอะไรกับฉูเจ๋อหยางกัน มีสิทธิ์อะไรมาทำให้เธอต้องหายใจสั้นๆถี่ๆแบบนี้

“ถึงขนาดนี้แล้วยังจะบอกว่าแค่อึกเดียวอีกหรอ แกเมาซะขนาดนี้ เรารีบกลับกันเถอะปะ” อวี๋ซือซือส่งสัญญาณทางสายตาให้เป้ยฉ่ายเวย พยายามที่จะทำเหมือนว่าเธอไม่ได้มีความผิด พาเป้ยฉ่ายเวยเดินไปทางประตูอย่างหน้าตาย

ภายในห้องมีเพียงเสียงของพวกเธอที่กำลังทำการเล่นละครตีเนียนกันอยู่สองคน “คุณเสิ่น คงรบกวนคุณแย่แล้ว เดี๋ยวต้องพาคนของพวกผมกลับก่อนแล้ว ครั้งหน้าผมจะชดใช้ให้คุณแล้วกันนะครับ” ถังฉีตงจับมือของอวี๋ซือซือเอาไว้ได้ทัน พูดกับเสิ่นลั่งด้วยความสุภาพ。 เมื่ออวี๋ซือซือหยุดเดิน เป้ยฉ่ายเวยก็จำต้องหยุดยืนอยู่ข้างกายฉูเจ๋อหยางพอดี ยืนกระทบไหล่ของเขาอยู่อย่างนั้น ไม่ต้องหันไปมองเธอก็รู้สึกได้ถึงไอเย็นๆที่แผ่ออกมาไม่หยุดจากตัวเขา มันสามารถข่มความร้อนรุ่มภายในใจของเป้ยฉ่ายเวยไว้ได้สักพัก แต่ความร้อนรุ่มในเบื้องลึกก็กลับมาแผดเผาอีกครั้ง คลื่นความร้อนลุกโชนขึ้นมา แข็งขาอ่อนไปหมด ไม่ได้ เธอจะแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าฉูเจ๋อหยางไม่ได้ เสิ่นลั่งไม่ได้ตอบกลับอะไร มองใบหน้าที่เย็นชาของฉูเจ๋อหยาง ยกมุมปากขึ้นอย่างไม่แยแสอะไร “ทนายฉู ครั้งหน้าต้องดูแลแมวน้อยหลงทางตัวนี้ให้ดีๆนะ อย่างไรเสียแมวพันธ์นี้ก็ไม่ใช่ว่าจะพบได้ทั่วไป ใครเห็นก็อยากได้กันทั้งนั้น” เขากำลังกวนประสาท กวนประสาทอยู่เห็นๆ จิตวิญญาณนักสอดรู้ของอวี๋ซือซือเริ่มกระเหี้ยนกระหือรือขึ้นอีกครั้ง เธออยากเห็นว่าฉูเจ๋อหยางจะแสดงท่าทีอย่างไร แต่ก็ถูกผู้ชายข้างกายดึงกลับมา ในสถานการณ์แบบนี้ยังจะทำเป็นเล่นอีก นี่อย่าบอกนะว่าเธอยังคิดไม่ได้อีก เดี๋ยวกับไปคงต้องจัดการเธอหน่อยแล้ว อวี๋ซือซือรู้ตัวว่าตัวเองมีความผิด ก็ไม่กล้าส่งเสียงอะไรอีก แลบลิ้นแหะๆยอมล้าถอยแต่โดยดีสีหน้าของฉูเจ๋อหยางเรียบนิ่ง ใครก็มองไม่ออกว่าภายใต้นัยน์ตาสีเข้มนั้นซ่อนอะไรเอาไว้ เสียงที่ปกติก็เย็นชาอยู่แล้วของเขา ตอนนี้เย็นชาขึ้นจนรู้สึกหนาวถึงกระดูก “ใครๆก็อยากได้ แต่ก็ไม่มีใครได้”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์