โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 264 หญิงสาวผู้บ้าคลั่ง

บทที่ 264 หญิงสาวผู้บ้าคลั่ง

เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆอวี๋ซือซือถึงได้ใช้สายตาที่สื่อว่า ‘ฉันรู้ฉันเข้าใจ’ มองมาที่เธอ แต่เมื่อพูดถึงเรื่องกลับบ้าน เธอก็พบว่าเวลามันเลทมาสักพักแล้ว

รีบพูดขึ้นอย่างรีบร้อนว่า “งั้นก็รบกวนเธอด้วยนะ ซือซือเรารีบไปกันเถอะ รุ่ยรุ่ยกำลังรอฉันอยู่ที่บ้าน”

อวี๋ซือซือเดินไปพลาง พูดไปพลางว่า “แกคงไม่ได้โทรหารุ่ยรุ่ยสินะ”

เป้ยฉ่ายเวยนิ่งไปจากนั้นก็พูดขึ้น “ฉันลืมน่ะ กลับไปค่อยบอกว่าฉันเมาเลยค้างกับเธอแล้วกัน”

“..........” เธอจะพูดอะไรได้อีก ก็ต้องเห็นด้วยอยู่แล้วสิ

————

ณ ชั้นบนของคฤหาสน์ตระกูลหนาน ชายหนุ่มที่ผอมแห้งพูดรายงานเรื่องบางอย่างกับหนานฉิง

“แกว่าอะไรนะ! พูดอีกครั้งซิ” หญิงสาวที่ตอนแรกสงบนิ่ง แต่ไม่นานสีหน้าก็บิดเบี้ยวขึ้นมาภายในพริบตา

ผู้ชายคนนั้นไม่กล้าปิดบัง นำเอาข่าวที่ได้ยินมาพูดออกมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน “คุณหนานครับ คนของเราเห็นทนายฉูกับผู้หญิงที่ชื่อเป้ยฉ่ายเวยเข้าโรงแรมไปด้วยกัน เฝ้าอยู่ทั้งคืนก็ไม่เห็นออกมา เกือบๆเที่ยงถึงเห็นทนายฉูเดินออกมาคนเดียว จากนั้นเป้ยฉ่ายเวยก็ตามออกมากับผู้หญิงแปลกหน้าคนนึงครับ”

“ไม่ เป็นไปไม่ได้ แกต้องจำผิดแน่ๆ” หนานฉิงไม่อยากยอมรับความจริง เดินวนไปมาในห้องอย่างโกรธเคือง

หลังจากเกิดเรื่องของจางเจิ้งกวาง ช่วงนี้อาเจ๋อไม่หือไม่อือกับเธอเลย เธอก็ไม่กล้าไปกวนเขาด้วย แต่ว่าไม่เจอกันตั้งหลายวันขนาดนี้ เธอทนไม่ไหวจนอยากไปหาเขา แต่ไปหาที่บริษัทก็ไม่เจอ

ดังนั้นเธอเลยเอะใจ สั่งให้คนไปสะกดรอยตามเขา เธอรู้ว่าถ้าถูกรู้เข้าผลที่ตามมาก็คงร้ายแรงแน่ๆ แต่เธอก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว เธออยากรู้ว่าในแต่ละวันเขาทำอะไรบ้าง

แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้คำตอบแบบนี้ จะให้เธอไม่โกรธได้ยังไงไหว

“คุณหนานครับ พวกเราไม่ได้จำผิดจริงๆนะครับ” ชายหนุ่มพูดบ่นอุบอิบเสียงเบาว่า “รูปก็ชัดซะขนาดนั้น จะจำผิดคนได้ยังไง”

อีกอย่างพวกเขาก็อดหลับอดนอนมาทั้งคืน ยังไงก็ไม่มีทางทำพลาดได้หรอก

แววตามาดร้ายของหนานฉิง ทำให้ชายผู้เป็นลูกน้องกลัวจนก้มหน้าไม่กล้าบ่นอีก

“แกได้เรื่องอะไรมาอีก” หนานฉิงรู้ว่าเขาไม่มีความจำเป็นอะไรต้องโกหก แต่ทว่าความโกรธเคืองในใจทำยังไงก็ข่มมันเอาไว้ไม่ได้ เป้ยฉ่ายเวยอยู่กับหลี่จื่อเชียนแล้วแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะยังมาคั่วกับอาเจ๋ออยู่อีก

ช่างเป็นผู้หญิงที่ต่ำเสียจริง

“เมื่อวานผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะเมาครับ คนของเราตามทนายฉูไปที่ไนท์ซิตี้คลับ แต่ชั้นบนมีกล้องวงจรปิดอยู่เยอะมาก เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องที่ยุ่งยากเกินความจำเป็น คนของเราเลยไม่กล้าตามขึ้นไปครับ”

อาจจะเพราะว่าชั้นบนเป็นที่รองรับคนใหญ่คนโต คนธรรมดาแบบพวกเขา เลยไม่มีสิทธิ์ขึ้นไป ถ้าหากไปทำให้ใครเขาขัดใจเข้าล่ะก็ ก็อย่าฝันที่จะได้อยู่ในสายอาชีพนี้ต่อไปเลย

“ไสหัวไปได้แล้ว ส่วนเงินเดี๋ยวฉันโอนให้” หนานฉิงหงุดหงิด ยิ่งมองชายหนุ่มที่เป็นลูกน้องยิ่งหงุดหงิด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเธอก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ที่ควรจะมีเอาไว้

เมื่อผู้ชายคนนั้นได้ยินว่าไม่นานจะได้เงินแล้ว ตาทั้งสองข้างก็ยิ้มหยีจนเป็นเส้นตรง ที่ถูกวีนก็ไม่พอใจอยู่หรอก แต่ก็ต้องโค้งหัวลงเพื่อขอบคุณ “ขอบคุณคุณหนานครับ งั้นผมขอตัวก่อน ถ้ามีเรื่องอะไรก็เรียกใช้ได้เลยครับ”

หนานฉิงตอบรับห้วนๆ เหลือบมองเขาอย่างเหยียดๆ มือสองข้างที่วางอยู่ข้างล่างกำเสื้อผ้าแน่น ราวกับว่าที่กำเอาไว้ในมือไม่ใช่เนื้อผ้า แต่เป็นเป้ยฉ่ายเวย ที่เธออยากจะบีบให้ตายเสียเหลือเกิน

ชายหนุ่มผู้เป็นลูกน้องเพิ่งจะเดินได้ถึงหน้าประตู

หนานฉิงก็เอ่ยปากพูดกะทันหัน “จำเอาไว้ ปิดปากแกเอาไว้ให้ดี ถ้ามีข่าวลืออะไรหลุดออกไป แกคงรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

“รับทราบครับ คุณหนานวางใจได้” ชายหนุ่มเข้าใจคำเตือนในถ้อยคำของหนานฉิง จึงพูดยืนยันออกไป

“ออกไปได้ละ” หนานฉิงไม่อยากจะเสวนาอะไรอีก

ทันทีที่ผู้ชายคนนั้นเดินออกไป หนานฉิงที่อดทนไว้นานก็ไม่สามารถควบคุมความโกรธในใจเอาไว้ได้อีกต่อไป กวาดของที่วางอยู่บนโต๊ะลงพื้นอย่างโกรธเคืองจนเกิดเสียงแก้วแตกดังเพล้ง

หนานฉิงรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ จึงพังของในห้องจนกระจัดกระจายราวกับคลุ้มคลั่ง ภาพลักษณ์สูงส่งไม่มีอีกแล้ว เธอในตอนนี้ราวกับสัตว์ป่าที่กำลังอาละวาดไปทั่วทุกทิศอยู่ในกรง

ในดวงตาคู่สวยมีแต่แววดุร้าย

ลมหายใจที่กระชั้นชิดของเธอบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้เธออารมณ์สวิงรุนแรงแค่ไหน “เป้ยฉ่ายเวย ทำไมต้องเป็นแกตลอด ทำไมต้องแย่งผู้ชายของฉันไป ฉันก็ดีกับแกขนาดนี้ ดีขนาดนี้!”

แค่คิดไปถึงเรื่องที่อาเจ๋ออยู่กับเป้ยฉ่ายเวยที่โรงแรมตลอดทั้งคืน เธอก็อดคิดไปถึงตอนที่เธอใส่ชุดน้อยชิ้นแต่ก็ไม่สามารถกระตุ้นอารมณ์อะไรของอาเจ๋อได้เลย ความแตกต่างนี้ ทำให้ใจที่มีแต่ความริษยาของเธอบีบแน่นจนแทบหายใจไม่ออก

ไม่ เธอไม่มีทางยอมรับความจริงนี้ได้

“เป้ยฉ่ายเวยฉันต้องทำให้แกตายทั้งเป็น ตายทั้งเป็น! ฮ่า!” หนานฉิงหยิบแจกันดอกไม้บนโต๊ะขึ้นมาจากนั้นก็ปาลงบนพื้นอย่างเดือดดาล

เป็นของตกแต่งที่ราคาสูงอีกหนึ่งชิ้น ที่แตกละเอียดไม่มีชิ้นดี

เหาเสว่ฉินที่ได้ยินเสียงโวยวายจึงขึ้นมาดูเมื่อเปิดประตูก็เจอเข้ากับเศษแก้วที่แตกอยู่เต็มพื้น จากนั้นก็มองไปยังหญิงสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจทรุดลงบนพื้นราวกับเป็นบ้าไปแล้ว เห็นดังนั้นทั้งหัวใจเธอก็รัดแน่นขึ้นมา

“เสี่ยวฉิงนี่ลูกทำอะไร ถ้าตัวเองมีแผลจะทำยังไงฮึ”หนานฉิงมองเหาเสว่หลินที่เดินเข้ามาหาอย่างเลื่อนลอย ทันใดนั้นก็เหมือนมีที่พึ่ง น้ำตาก็ทะลักออกมาในชั่ววินาที กรีดร้องออกมาด้วยความเสียใจ “แม่คะ หนูเสียใจ แม่ทำไงดี อาเจ๋อไม่ต้องการหนูแล้วจริงๆ”“อะไรกัน เสี่ยวฉิงลูกหยุดร้องก่อน บอกแม่มาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” เหาเสว่ฉินเข้าไปพยุงเธอขึ้นมาด้วยความสงสาร ไม่ใช่ว่าความสัมพันธ์ของเสี่ยวฉิงกับฉูเจ๋อหยางดีมาตลอดหรอ ทำไมถึงได้พูดออกมาแบบนั้นร่างของหนานฉิงอ่อนปวกเปียกปล่อยให้เหาเสว่ฉินพยุงตัวเองไปนั่งบนโซฟา ดวงตาว่างเปล่าไร้แวว พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก “แม่ มันเพราะผู้หญิงเลวทรามคนนั้น นังผู้หญิงคนนั้นมันแย่งความสุขไปจากหนู ฮือๆ....เมื่อวาน เมื่อวานอาเจ๋อเข้าโรงแรมไปกับนังนั่น”เมื่อพูดถึงตรงนี้ หนานฉิงก็เริ่มร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง แกพูดเองไม่ใช่หรอว่าความสัมพันธ์ของพวกแกหนักแน่นมาตลอด เขาเองก็ดีกับแก”เหาเสว่ฉินก็ตกใจไม่แพ้กัน แต่ยังมีอีกเรื่อง “เสี่ยวฉิงแกบอกแม่มาดีๆว่าแกรู้เรื่องนี้ได้ยังไง พวกแกก็เป็นแบบนี้กันมานานแล้วนะ”แววตาของหนานฉิงวูบไหว ไม่กล้าสบตากับเหาเสว่ฉิน เธอสลัดมือเหาเสว่ฉินออกอย่างพาลโกรธเอาดื้อๆ พูดขึ้นอย่างงอนๆว่า “แม่ไม่เป็นห่วงหนูหรอ ยังจะถามเรื่องพวกนี้อีก หนูยังเป็นลูกแม่หรือเปล่า”“พูดอะไรไร้สาระ แกก็เป็นลูกแม่อยู่แล้วสิ และแม่เป็นห่วงแกอยู่แล้ว” เหาเสว่ฉินรีบปลอบโยนลูกหนานฉิงหันหลังให้เหาเสว่ฉิน นอกจากน้ำตาที่มีอยู่ก่อนหน้าที่เป็นน้ำตาจริง นอกนั้นในดวงตาของเธอตอนนี้ก็มีแต่ความเกลียดชัง ไม่ได้มีน้ำตาเลยสักนิด แกล้งร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดขึ้นว่า “แม่คะ ความรักของหนูกับอาเจ๋อก็ดีมาตลอด แต่ทุกอย่างมันก็เป็นเพราะความผิดของนังผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้น”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์