โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 272 ทำไมต้องช่วยเธอ

บทที่ 272 ทำไมต้องช่วยเธอ

นานพอสมควร ในที่สุดเป้ยฉ่ายเวยก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ยอมเห็นด้วยกับคำแนะนำของเขา “ก็ได้”

หลี่จื่อเชียนก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “เวยเวยตอนนี้เธอก็รออยู่ในบ้านแล้วกัน ฉันจะออกไปดูสถานการณ์ข้างนอก”

“ได้” เป้ยฉ่ายเวยพยักหน้า

เมื่อหลี่จื่อเชียนไป อวี๋ซือซือก็ผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย “เวยเวย แกก็นะ มีรุ่ยรุ่ยอยู่ด้วยคิดจะทำอะไรก็อย่าวู่วามนักเลย”

“หนานฉิงรู้แล้วว่าเมื่อวานฉันอยู่กับเขา” เป้ยฉ่ายเวยพูดจบก็จูงมือรุ่ยรุ่ยเดินกลับขึ้นชั้นบนอีกครั้ง

ทิ้งไว้ก็แต่อวี๋ซือซือที่มีสีหน้าช็อกๆ มิน่าล่ะนังบ้านั่นถึงได้เที่ยวไล่กัดคนอื่นเหมือนหมาบ้า โชคดีนะที่ฉูเจ๋อหยางทนได้

เรื่องข่าวคาวๆของเป้ยฉ่ายเวย มันเกิดขึ้นเร็วราวมีน้ำหลากจนรับมือไม่ทัน แต่เรื่องก็หายไปเร็วราวกับคลื่นทะเลซัดสาด

เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ไม่ถึงสามชั่วโมง ก็มีคนอาศัยอำนาจของตัวเองเก็บกวาดเรื่องของเป้ยฉ่ายเวยไปได้อย่างรวดเร็วราวสายฟ้าฟาด

ราวกับเรื่องตลกร้ายนี้เป็นเพียงแค่คลื่นระลอกหนึ่งในทะเลสาบ ที่กลับมาสงบนิ่งในเวลาอันรวดเร็ว

หลังจากที่ได้รับรู้เป้ยฉ่ายเวยก็ประหลาดใจมาก เธอคิดว่าเป็นหลี่จื่อเชียนที่ช่วยเธอจัดการเรื่องนี้

แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น หลี่จื่อเชียนกำลังจะไปแจ้งเรื่องนี้กับทางสำนักหนังสือพิมพ์ ก็พอดีกับที่ได้รับรายงานว่า ข่าวทั้งหมดของเป้ยฉ่ายเวยถูกลบไปหมดแล้ว

เมื่อสอบถาม ก็ได้รู้ว่าที่แท้มีคนข่มขู่ทางสำนักหนังสือพิมพ์ให้พวกเขารีบทำการเก็บเอาหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ตีพิมพ์ออกไปกลับคืนมา

ไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าฝีมือใครนอกจากจะเป็นฉูเจ๋อหยางที่ช่วยเวยเวยเวยแล้ว ก็คิดเป็นใครอื่นไปไม่ได้เลย

สีหน้าของหลี่จื่อเชียนลุ่มลึก สุดท้ายเขาก็กลับไปโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ไม่ว่าฉูเจ๋อหยางจะกำจัดเรื่องที่เกิดขึ้นไปด้วยวิธีไหน เขาก็ไม่อยากให้เวยเวยรับรู้ทั้งนั้น

ดังนั้นให้เป้ยฉ่ายเวยเข้าใจไปเองเสียเลยดีกว่าว่าเรื่องนี้เป็นหลี่จื่อเชียนที่แก้ปัญหาให้กับเธอ

ไม่มีใครจะโกรธเท่าหนานฉิงแล้ว เธอเสียทั้งเงินทั้งแรงและกำลังคนไปเยอะมาก หนังสือพิมพ์ถูกเผยแพร่ได้ไม่นานก็ถูกสั่งเก็บ เธอโทรไปขู่คนทางสำนักหนังสือพิมพ์แล้ว แต่คำตอบที่ได้คือคนๆนั้นแบ็คใหญ่กว่าเธอมาก พวกเขาจึงยอมที่จะขัดใจตระกูลหนาน

ดีกว่าขัดใจคนที่อยู่เบื้องหลังคนนั้น

ในเมืองจิ่นอันแห่งนี้นอกจากหลี่จื่อเชียนแล้วก็ยังมีอาเจ๋อ เธอไม่เชื่อว่าหลี่จื่อเชียนจะเก่งกาจถึงขนาดที่สั่งเก็บเรื่องนี้ได้ ฉะนั้นก็เหลือแค่คนรักของเธอที่เธอเอาแต่นึกถึงอยู่ตลอด

หลังจากที่หนานฉิงได้รู้ ความเลือดร้อนในตัวก็แทบจะพวยพุ่งออกมา เธอไม่สามารถข่มไฟโกรธเอาไว้ได้อีกแล้ว จึงรีบมาหาฉูเจ๋อหยางที่บริษัทในทันที

ไม่ว่าเลขาจะห้ามเอาไว้ยังไง เธอก็ยังคงดึงดันที่จะเปิดประตูเข้าไป

ภายในห้องทำงานไม่ได้มีแค่ฉูเจ๋อหยางเพียงคนเดียว แต่ยังมีชายหนุ่มหน้าตาน่ารักที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนอยู่ในห้องด้วย

เมื่อหานฉิงเห็นว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย ความโกรธขึงบนใหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าเจ็บปวดน่าสงสาร “อาเจ๋อ....”

ผู้ชายหน้าตาน่ารักคนนั้นก็คือเจี่ยงเสี่ยวเล่อ เมื่อได้เห็นหนานฉิงเริ่มน้ำตาคลอ เขาก็เอนหลังพิงกับโซฟารอดูบทละครที่กำลังจะฉายต่อจากนี้ในทันที ดวงตากลมโตคู่นั้นคอยกวาดมองไปมาระหว่างคนทั้งสองคน

จนกระทั่งนัยน์ตาเย็นชาไม่พอใจเหลือบมองมาทางเขา เขาถึงได้เบ้หน้า ชิไอ้คนขี้เหนียว กะอีแค่อยากสอดรู้แค่นี้ก็ไม่ได้

ฉูเจ๋อหยางเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่พอใจกับการกระทำบุ่มบ่ามของหนานฉิง เสียงทุ้มพูดขึ้นมาอย่างเรียบนิ่งว่า “มีอะไร”

หนานฉิงเหลือบตาไปทางเจี่ยงสี่ยวเล่อที่ยังนั่งอยู่กับที่ ราวกับจะบอกว่าเพราะมีคนอื่นอยู่ด้วยเธอเลยไม่สะดวกที่จะพูด แต่เมื่อมองใบหน้าหล่อเหลาของฉูเจ๋อหยางที่กำลังสื่อว่าถ้าเธอไม่มีเรื่องจะพูดก็ให้รีบๆออกไป

เธอจึงทำได้เพียงเอ่ยปากขึ้นอย่างไม่เต็มใจนัก “อาเจ๋อ ทำไมคุณต้องทำแบบนี้”

“ เด็ก” เสียงของฉูเจ๋อหยางแข็งขึ้น

เมื่อได้ยินชายหนุ่มผู้เป็นที่รักบอกว่าที่เธอทำมันเป็นแค่การกระทำของเด็ก ความน้อยใจที่อัดอั้นมานานก็ทะลักออกมา ไม่สนอีกแล้วว่าจะมีคนอื่นกำลังเฝ้ามองอยู่ในห้องด้วย หยดน้ำตาร่วงไหลลงมา

ยิ่งดูน่าสงสารเข้าไปใหญ่ “อาเจ๋อ ที่คุณทำแบบนี้ไม่ละอายใจต่อฉันบ้างหรอ ฉันรู้เรื่องของคุณกับผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้นหมดแล้ว”

ความเยือกเย็นในดวงตาของฉูเจ๋อหยางก่อตัวเป็นน้ำแข็งในทันที เสียงทุ้มต่ำพูดด้วยความเย็นยะเยือกที่ดูอันตรายว่า “ระวังคำพูดด้วย”

“หรือว่าฉันพูดอะไรผิดหรอ คุณคบกับฉันอยู่นะ แต่คุณกลับไปเข้าโรงแรมกับนังนั่น อาเจ๋อในใจของคุณมีฉันอยู่บ้างหรือเปล่า” หนานฉิงพูดขึ้นอย่างเจ็บปวดพร้อมกับกุมอกไปด้วย จากนั้นก็พูดออกมาอย่างเสียงดังด้วยความเสียใจ “ฉันทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ได้ แต่ฉันจะไม่สิทธิ์โกรธบ้างเลยหรอ?”

เจี่ยงเสี่ยวเล่อเพลิดเพลินไปกับเรื่องที่ได้ยิน ที่แท้เมื่อวานก็มีเรื่องให้ถกกันสนั่นนี่เอง รู้งี้เขาน่าจะไปร่วมสนุกด้วยไม่น่าอู้เลย

แต่ก็นะทักษะการแสดงละครของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย เห็นอยู่ชัดๆว่าโกรธจนจะตายแล้ว ยังจะแสร้งทำเป็นเสียอกเสียใจอยู่ได้

ฉูเจ๋อหยางก็สมกับเป็นฉูเจ๋อหยางที่สามารถจับประเด็นได้ในเวลาอันรวดเร็ว มองเธอด้วยใบหน้าอึมครึมดูน่ากลัว “คุณสั่งคนให้สะกดรอยตามผมงั้นหรอ”

เมื่อหนานฉิงสบตากับนัยน์ตาเย็นเฉียบคู่นั้นของฉูเจ๋อหยาง เธอก็ก้าวถอยหลังด้วยความกลัว นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดเอาไว้ เธอคิดว่ายังไงอาเจ๋อก็ต้องรู้สึกผิด และดีกับเธอบ้าง

เธอลืมไปเลยว่ายังมีเรื่องนี้ค้ำคออยู่ น้ำเสียงของเธอก็ไม่ได้มั่นใจเหมือนเมื่อครู่แล้ว “อาเจ๋อ ฉันเปล่านะ ฉัน ฉันได้ยินเพื่อนฉันบอกมา อีกอย่างคุณก็อยู่กับผู้หญิงต่ำๆคนนั้นจริงๆ....”

แต่ถึงเธอจะสั่งให้คนสะกดรอยตามเขายังไง แต่มันก็เพราะเขาไปโรงแรมกับเป้ยฉ่ายเวยก่อนไม่ใช่หรอ คนผิดก็คือเป้ยฉ่ายเวย ไม่ใช่เธอสักหน่อย แล้วทำไมอาเจ๋อต้องใจร้ายกับเธอด้วย

“เพื่อนคุณหรอ คนไหนล่ะ” เห็นเขาเป็นเด็กสามขวบหรอ ถึงได้โหกเขาโง่ๆอย่างนี้

หนานฉิงสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ลดต่ำลงรอบกาย จ้องมองร่างสูงใหญ่ที่ค่อยๆรุกคืบเข้ามาใกล้ไม่หยุด เธอรู้สึกพลาดที่วู่วามมาหาเขาเพื่อซักถาม แต่ในใจเธอรู้สึกเศร้าเสียใจมากกว่า

“อาเจ๋อ คุณไม่เชื่อใจฉันบ้างเลยหรอ” หนานฉิงพูดออกมาพร้อมใบหน้าซีดขาวที่ใกล้จะเป็นลมล้มพับเข้าให้ เจี่ยงเสี่ยวเล่อที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่บนโซฟาก็มองบนในทันที เมื่อถูกจับไต๋ได้ จากตอนแรกที่ดูหนักแน่นในเหตุผลเหลือเกิน พอมาตอนนี้กลับจะเป็นจะตาย ผู้หญิงคนนี้จะไม่ดูโง่ไปหน่อยหรอ“เรื่องของเป้ยฉ่ายเวย คุณเป็นคนปล่อย” ฉูเจ๋อหยางก้าวคืบมาอยู่ตรงหน้าเธอแล้วหนานฉิงหดตัวลงโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มที่ทำให้เธอชื่มชนและเชื่อมั่นในวันวาน มาตอนนี้กลับทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็ผู้ชายเย็นชาไร้หัวใจอย่างฉูเจ๋อหยางนี่แหละ ที่ทำให้เธอไม่สามารถตัดใจได้สักที。ความรัก,ความเอาใจใส่,ความอ่อนโยนของเขา ทุกๆอย่างควรเป็นของเธอแค่คนเดียว แต่เพราะมีเป้ยฉ่ายเวยเข้ามา ถึงได้กลายมาเป็นแบบนี้“อาเจ๋อ ฉันรักคุณจริงๆ ฉันเสียคุณไปไม่ได้”นัยน์ตาดำมืดฉูเจ๋อหยางวูบไหว เขาค่อยๆเดินรุกคืบเข้าไปท่ามกลางสายตาตกตะลึงของหนานฉิง ระยะห่างระหว่างสองคนยิ่งร่นเข้าเรื่อยๆ หนานฉิงได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวของตัวเองอย่างขัดเจน ในตอนที่เธอคิดว่าอาเจ๋ออาจจะจูบเธอ เขากลับหยุดนิ่งไปเขามองตาของเธอ จากนั้นก็พูดออกมาด้วยความเย็นชาและโหดร้าย “อย่าคิดมาลองดีกับความอดทนของผม ถ้ายังเห็นว่าคุณส่งคนมาคอยติดตามผมอีก หาว่าผมใจร้ายก็แล้วกัน”วินาทีนั้นหนานฉิงสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง เธอไม่กล้าที่จะข้องใจกับคำพูดของเขา

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์