โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 279 ชายหนุ่มผู้วิปริต

บทที่ 279 ชายหนุ่มผู้วิปริต

หลี่อ๋าวไม่โกรธ แต่ดันหัวเราะออกมาเบาๆ เสียงจืดชืดทำให้คนฟังขนพองสยองเกล้า “เสี่ยวฉิง ฉันก็แค่อยากให้เธอมากินข้าวด้วยกันสักมื้อ”

“แค่นั้นจริงๆใช่ไหม?” หนานฉิงไม่เชื่อ หลี่อ๋าวน่ากลัว เธอได้ยินข่าวคราวมาบ้าง อีกอย่างเธอก็เคยเห็นกับตามาแล้วครั้งนึง มันโหดร้ายจนรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อไปหมด

หลี่อ๋าวใช้โทนเสียงสบายๆคุยโต้ตอบกับเธอตลอด “อืม ขอแค่เธอยอมออกมากินข้าวกับฉัน แล้วเรื่องนี้ฉันจะจัดการให้เอง”

“ฉันว่าเรื่องกินข้าวตัดออกไปเถอะ ฉันจะเพิ่มให้นายอีกสองล้าน เงินเจ็ดล้านกับการฆ่าผู้หญิงกับเด็กคงจะเป็นราคาที่สูงพอเหมาะพอควรนะ” หนานฉิงลองครุ่นคิดแล้วก็ยังไม่อยากไปเสี่ยงสักเท่าไหร่ ถ้าเกิดหลี่อ๋าวเล่นพิเรน เธอก็คงหนีไม่รอดแน่

หลี่อ๋าวต้องการแค่อย่างเดียว นั่นก็คือการได้เจอเธอ “เสี่ยวฉิง ฉันไม่ได้ร้อนเงินขนาดนั้น ถ้าเธอไม่สบายใจงั้นเธอเลือกเวลาสถานที่มาเลย ถ้าแบบนี้ยังไม่โอเคอีก งั้นฉันก็คงไม่อยากได้งานนี้แล้วล่ะ”

“นาย!” หนานฉิงกังวล หลี่อ๋าวกำลังขู่เธออยู่เห็นๆ ถ้าเธอไม่ยอมออกไป เขาก็ไม่รับทำภารกิจนี้ เมื่อคิดว่าตัวเองยังมีเรื่องที่ต้องพึ่งเขา เธอจึงทำได้แค่ข่มเพลิงโกรธในใจเอาไว้

ลังเลอยู่ชั่วครู่ ก็ตอบกลับไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “ได้ รอไปก่อนเดี๋ยวฉันนัดเวลาเอง”

“ได้เลย ตอนนี้เธอพูดมาได้แล้วว่าเธออยากให้ฆ่าใคร” เมื่อหลี่อ๋าวได้คำตอบที่พึงพอใจ ก็เข้าเรื่องเลยทันที

ในที่สุดก็พูดถึงประเด็นสักที ดวงตาของเธอปรากฏแววอำมหิต พูดออกมาอย่างอาฆาตแค้น “คนนึงชื่อเป้ยฉ่ายเวย อีกคนเป็นลูกของมัน ฉันรู้แค่ว่ามันออกนอกประเทศไปแล้ว ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”

“รู้เวลาออกเดินทางไหม” ขอแค่รู้เวลา ก็สามารถตามหาผู้หญิงคนนั้นเจอได้

“รู้ เดี๋ยวสักพักฉันจะเอากล้องวงจรปิดทั้งหมดส่งให้นายดู” ทันใดนั้นหนาฉิงก็นึกถึงรายละเอียดอะไรบางอย่างได้ เธอล้มเลิกความคิดที่จะให้เขาฆ่าเป้ยฉ่ายเวยทันที “หลี่อ๋าวนายอย่าเพิ่งฆ่ามันนะ หาที่อยู่มันให้ได้ก่อน แล้วฉันจะลงมือเอง”

เธออยากฆ่าเป้ยฉ่ายเวยด้วยวิธีของเธอ ความเกลียดชังฝังลึกของเธอมันยากที่จะดับลงได้ เธออยากค่อยๆทรมานเป้ยฉ่ายเวย ให้มันได้เห็นลูกของมันตายต่อหน้าต่อตาโดยที่มันช่วยอะไรไม่ได้ ถึงมันจะอยากตายแค่ไหนแต่ก็ตายไม่ได้ ทั้งชาตินี้มันต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความโศกเศร้าอย่างเจ็บปวด

อย่างนี้ถึงจะเป็นวิธีการแก้แค้นเป้ยฉ่ายเวยที่ดีที่สุด

แค่คิดถึงภาพนั้น ในใจของหนานฉิงก็รู้สึกสะใจไม่มีใครเกิน

แค่เพียงหลี่อ๋าวได้ฟังที่เธอพูดก็รู้ได้ทันทีว่าเธอเกลียดผู้หญิงที่ชื่อเป้ยฉ่ายเวยมากขนาดไหน “เสี่ยวฉิงเธอก็น่าจะรู้ดี ขอแค่เธอพูดมาฉันจะทำให้เธอพอใจเอง”

ประโยคหลังต่อให้เขาไม่พูด เขาก็รู้ว่าผู้หญิงในสายเข้าใจมันดี คนอย่างหลี่อ๋าวที่ไม่เคยทำอะไรให้ใครฟรีๆ มีแค่เธอ ที่เขายินดีและเต็มใจ

ตราบใดที่เธอยอมรับเขา

ลำคอของหนานฉิงตีบตัน ไม่กล้าตอบรับหลี่อ๋าวโดยตรง พูดยอกย้อนกลับว่า “นายสบายใจได้ ฉันทำอย่างที่ฉันพูดแน่ๆ เรื่องเงิน ฉันจะให้นายโดยไม่ขาดไปแม้แต่บาทเดียวแน่”

“เสี่ยวฉิง ไม่นานเธอจะได้เข้าใจ ว่าที่ฉันต้องการไม่ใช่ของพวกนี้ รอฟังข่าวดีจากฉันแล้วกัน” หลี่อ๋าวไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงกับเธอ แต่ไหนแต่ไรของที่เขาอยากได้ ไม่ว่าจะเป็นคน หรือสิ่งของก็ไม่เคยหลุดจากเงื้อมมือเขาไปได้

ถ้าเขาไม่ได้ เขาก็จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนได้ไปเหมือนกัน แม้ต้องทำลายก็ไม่เสียดาย

“งั้นก็พอแค่นี้ก่อน” หนานฉิงไม่กล้าพูดกับเขาให้มากความ รีบตัดสายในทันที ยกมือขึ้นปาดหน้าผาก ก็พบว่าบนฝ่ามือมีเหงื่ออยู่เต็ม เหงื่อเธอไหลออกมาเยอะโดยไม่รู้ตัวขนาดนี้เลยหรอ

เริ่มจะสงสัยแล้วว่าการที่เรียกหาหลี่อ๋าวมันเป็นตัวเลือกที่ถูกแล้วใช่ไหม

แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่เป้ยฉ่ายเวยมีลูกของอาเจ๋อ หัวใจก็เธอก็ราวกับถูกดวงไฟเผาไหม้ ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตวิญญาณของเธอต่างวิกลจริตจนอยากจะฉีกเป้ยฉ่ายเวยให้เป็นชิ้นๆ

ดวงตาของหนานฉิงค่อยๆเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ไม่ไหวติง ถ้าเธอไม่ได้เขา ใครหน้าไหนก็อย่าคิดว่าจะได้

ถ้ามองจากมุมใดมุมหนึ่ง อันที่จริงแล้วหนานฉิงก็เหมือนกับหลี่อ๋าว ที่เห็นแก่ประโยชน์ตัวเอง เพื่อเป้าหมายแล้วก็ทำได้ทุกวิถีทางโดยไม่เลือก ไม่มีแบ่งเส้นตาย

เมื่อคนใช้ได้ยินเสียงปาข้าวของในห้องของหนานฉิง ต่างไม่กล้าพากันเข้าใกล้ คนนอกอาจจะไม่รู้ว่าคุณหนูของพวกเธอเป็นคนยังไง มีแค่พวกเธอที่คอยรับใช้อยู่ไม่ห่างเท่านั้นที่รู้

คุณหนูของพวกเธอเอาแน่เอานอนไม่ได้

เสียงเอี๊ยดดังขึ้น

ปรากฏเป็นร่างอรชรของหนานฉิงเดินออกมาจากห้องนอน ก้มลงมองเหล่าคนใช้ที่ยืนอยู่ตรงบริเวณบันไดที่ไม่กล้าขึ้นมา เสียงใสที่ไพเราะเสนาะหูค่อยๆพูดขึ้นช้าๆ “เป็นอะไรไป ได้ยินเสียงดังแล้วยังไม่ขึ้นมาเก็บอีก”

เมื่อได้ยินคำสั่งจากหนานฉิง คนใช้สองสามคนก็ก้มหน้าทยอยกันเดินขึ้นมา ลอบมองภาพที่ปรากฏอยู่หลังประตู ก็ยิ่งก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม ภายในห้องอย่างกับถูกพายุทอร์นาโดถล่ม อะไรที่ทิ้งได้ก็ทิ้งหมด ผ้าม่านก็ถูกกระชากดึงออกมาหมดแล้ว

บนพื้นมีแต่เศษแก้วแหลมคม จะเก็บทำความสะอาดที ก็คงต้องเริ่มกระบวนการครั้งใหญ่แล้ว

เหมือนหนานฉิงอ่านใจพวกเธอออก เธอเล่นเล็บของตัวเอง แล้วพูดขึ้นเสียงเย็นว่า “ทำยากมากหรอ?”

คนใช้รีบส่ายหน้า ตอบกลับอย่างตัวสั่นงก “ไม่ค่ะ ไม่ยากค่ะ”

“เมื่อไม่ยากแล้วทำไมยังไม่เก็บอีก” หนานฉิงรอจนกระทั่งคนรับใช้แต่ละคนเดินเข้าไปในห้องหมด มุมปากก็เผยรอยยิ้มร้ายออกมา “อย่าลืมว่าต้องคุกเข่าลงไปแล้วเก็บให้สะอาด”

เธอตั้งใจเน้นย้ำว่าต้องใช้มือเก็บ ไม่ใช่อาศัยอุปกรณ์ทำความสะอาด

“ค่ะ คุณหนู” คนใช้ไม่กล้าต่อต้าน จึงทำได้แค่กล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมและความไม่พอใจเอาไว้ คุกเข่าลงไป ค่อยๆใช้มือเก็บเศษแก้วขึ้นมา

ตั้งแต่ที่เธอสั่งให้เป้ยฉ่ายเวยทำแบบนี้ หนานฉิงก็ชื่นชอบการทรมานคนด้วยวิธีนี้ไปซะแล้ว เมื่อเห็นคนพวกนั้นค่อยๆเก็บเศษแก้วบนพื้นที่แตกละเอียดเหมือนฝูงมดขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ทั้งตอนที่ไม่ระวังแล้วถูกแก้วบาด

รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอยิ่งกว้างขึ้น สุดท้ายก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาราวกับพอใจ แล้วก็ก้าวขาเดินจากไปอย่างสง่า

เด็กวัยรุ่นผู้หญิงที่เป็นหนึ่งในคนใช้ทนไม่ไหวจึงร้องไห้ออกมา

“ฮือๆๆๆ.....หนูอยากกลับบ้าน หนูไม่อยากทำงานที่นี่แล้ว......”

“ชู่ว เบาหน่อยสิ อย่าให้คุณหนูกับคุณผู้หญิงได้ยินเชียวล่ะ ไม่อย่างนั้นแกซวยแน่” หญิงมีอายุขึ้นมาหน่อย กล่าวเตือนด้วยความหวังดี

เด็กหญิงร้องไปถามไปอย่างไม่เข้าใจว่า “ทำไมล่ะ หนูลาออกไม่ได้หรือไง ชีวิตที่ต้องคอยหวาดระแวงอยู่แบบนี้มันไม่ใช่ชีวิตที่คนเขาอยากมีกันหรอก”เงินเดือนสูงก็จริง แต่ว่าวันทั้งวันต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้ความหวาดกลัวใครเขาจะไปรับไหว เธอไม่อยากทำแล้ว เธออยากกลับบ้าน“ฉันว่าแกคงเพิ่งเรียนจบสินะ ตอนที่แกเข้ามาทำงาน พ่อบ้านให้แกเซ็นสัญญาด้วยใช่ไหม” หญิงวัยกลางคนถามขึ้นอย่างเห็นใจเด็กสาวพยักหน้า “ใช่ค่ะ”สัญญาทำงานมีปัญหาอะไรหรอ?“ฉันว่าแกคงไม่ได้อ่านสัญญาดีๆแน่ๆ ทำงานไม่ถึงห้าปีเต็ม ต้องชดใช้ถึงจะลาออกได้”“ทำไมล่ะ ถือสิทธิ์อะไรกัน” เด็กสาวไม่ได้สังเกตเห็นเงื่อนไขข้อนี้จริงๆ“ชู่ว.....มีคนมา” คนข้างๆได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่กำลังเข้ามาเร่งพวกเธอ ให้พวกเธอรีบทำงานให้เสร็จหญิงวัยกลางคนยังดี ที่ไม่พูดมาก ก้มหน้าทำงานต่อไปเด็กสาวที่เพิ่งเรียนจบรับไม่ได้กับความไม่เป็นธรรมอย่างนี้ โวยโวยเสียงดังหาข้อโต้เถียง “มีกฎแบบนี้ที่ไหนกัน ถ้าเป็นจริงนะ หนูก็ให้ทนายฟ้องพวกเขาได้”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์