โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 280 หนีตามกันแน่ๆ

บทที่ 280 หนีตามกันแน่ๆ

‘ซ่า’น้ำถูกเทลงบนหัวของเด็กสาว

แก้วในมือของหนานฉิงถูกปล่อยลงกระแทกพื้น แก้วน้ำใบใสแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ สีหน้าของเธอไม่เปลี่ยน โทนเสียงราบเรียบพูดขึ้นว่า “เก็บขึ้นมา”

บรรยากาศตึงเครียดเริ่มก่อตัวขึ้นมา

คนอื่นๆก้มหน้าลงไม่กล้าปริปากพูด แอบเหงื่อซึมแทนเด็กสาวคนนั้น

เด็กสาวที่เปียกไปทั้งหัวนิ่งอึ้ง หลังจากที่มีสติกลับมาก็ร้องทุกข์เสียงดัง “ฉันทำอะไรผิดหรอคะ คุณถึงได้เอาน้ำมาเทใส่ฉัน ถึงคุณจะเป็นคุณหนูคุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนี้ ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของคนอื่นยังไงก็ได้นะ”

“จะเก็บหรือไม่เก็บ” สีหน้าของหนานฉิงไม่เปลี่ยน ให้เธอแค่สองทางเลือก

หญิงกลางคนใจดีคนนั้นอยากพูดห้าม ก็ถูกคนข้างๆขวางเอาไว้ บ่งบอกเธอว่าอย่าเพิ่งใช้อารมณ์

เด็กสาวไม่ยอมก้มหน้า เชิดคอตอบกลับไปว่า “ฉันไม่เก็บ คุณทำของคุณเอง”

หนานฉิงยิ้มอ่อนๆออกมา ไม่สนใจเด็กสาวตรงหน้า เพียงแค่ดีดนิ้ว ก็มีผู้ชายสองคนเข้ามา

โค้งให้เธออย่างนอบน้อม “คุณหนาน ไม่ทราบว่ามีอะไรให้รับใช้ครับ”

“ส่งเธอให้พ่อบ้านเฉิน” หนานฉิงชี้ไปทางเด็กสาว เธอจะให้คนส่งเด็กผู้หญิงคนนี้ไปทำอะไรก็ได้ สังคมนี้มีเงินไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกอย่างก็จริง แต่ถ้าไม่มีเงินก็ใช้ชีวิตลำบากหน่อยนะ

คนที่ไม่ยอมก้มหัวให้คนที่อยู่เหนือกว่าเพราะเงินเพียงน้อยนิดน่ะมันไม่มีอยู่จริงหรอกนะ

“ครับ คุณหนาน” ชายรับใช้ทั้งสองพยักหน้า เดินเข้าไปหาเด็กสาว

“ไม่ คุณจะทำกับฉันอย่างนี้ไม่ได้” เด็กสาวส่ายหน้าอย่างหวาดกลัว ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าการมีเหตุผลรองรับของตัวเอง ในด้านสิทธิ์และเงินทองแล้วมันก็แค่เสียงเล็กเท่านั้นเอง

แต่ไม่ว่าเธอจะขัดขืนยังไง ก็ถูกหนีบลงไปข้างล่างอยู่ดี ชั่ววินาทีที่เธอถูกลากผ่านลงไป หนานฉิงก็พูดขึ้นอย่างเฉยชาว่า “จำเอาไว้ แกก็แค่ตัวไรที่ใช้ชีวิตอยู่ใต้ดิน อย่าสะเออะมาเรียกร้องหาความยุติธรรม”

คนชั้นต่ำไม่ควรที่จะมีความยุติธรรมอะไรทั้งนั้น ก็เหมือนเป้ยฉ่ายเวยนั่นแหละ แค่เธอขยับนิ้ว ก็สามารถทำให้มันตายได้อย่างไม่มีที่ฝังศพแน่

เด็กสาวอยากขอร้องอ้อนวอน แต่พวกเขาไม่แม้แต่จะให้โอกาส ฉุดกระชากเธอลงไปอย่างทันทีทันใด

คนใช้คนอื่นๆทำได้เพียงแค่ฟังเสียงร้องไห้อ้อนวอนของเด็กสาวค่อยๆดังห่างไกลออกไป

“แก้วบนพื้นนี่ใครจะเก็บ” หนานฉิงกวาดสายตามองพวกเธอครบทุกคน จากนั้นสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่คนๆหนึ่ง

ทุกคนเหยียดหลังตรงทันที แต่หญิงวัยกลางคนๆนั้นที่เมื่อครู่คิดจะช่วยเด็กสาวพูด ก็พูดขึ้นอย่างระมัดระวังและหวาดกลัว “คุณหนานอย่าเพิ่งโกรธเลยนะคะ แก้วพวกนี้เดี๋ยวฉันเก็บเอง ฉันจะเก็บให้สะอาดเลยค่ะ”

หนานฉิงยังไม่พอใจ มองหญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนพื้น พูดเสียงเรียบนิ่ง “เก็บสิ”

“ค่ะๆ” หญิงวัยกลางคนเดาใจไม่ถูกว่าเธอยอมยกโทษให้หรือยัง คุกเข่าลงบนพื้นอย่างอกสั่นขวัญแขวน ค่อยๆเก็บเศษแก้วที่แหลมคมขึ้นมาทีละชิ้น เพราะกดดันจึงมีเหงื่อผุดขึ้นตรงหน้าผากจนหยดลงบนพื้น

เสียงเพล้งดังขึ้น ตามมาด้วยหญิงวัยกลางคนร้องเจ็บปวดออกมา “โอ้ย เจ็บๆ มือฉัน...”

คนอื่นๆได้ยินเสียงกรอบดังขึ้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป ร่างกายเริ่มสั่นเทา

หนานฉิงทำเหมือนเพิ่งเห็นว่าตัวเองเพิ่งจะเหยียบคนอื่นไป ทำหน้ารู้สึกผิดพูดกับคนเจ็บว่า “ขอโทษนะ ที่เหยียบเธอ”

ปากบอกขอโทษ แต่แรงบนเท้ากลับเหยียบซ้ำอย่างไม่ออมแรง มือของหญิงวัยกลางคนถูกแก้วบาดจนทะลุ เลือดไหลออกมาไม่หยุด

ถึงจะเป็นเช่นนี้ หญิงคนนั้นก็ยังกัดฟันอดทน เพราะเธอยังต้องการทำงานนี้อยู่ อีกอย่างด้วยข้อจำกัดหลายอย่างของเธอแล้ว คงหางานที่เงินเดือนสูงเท่างานนี้ไม่ได้ “ความผิดฉันเองค่ะ ฉันไม่ควรเกะกะทางเดินคุณหนาน”

“เหอะ——“ หนานฉิงไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เหยียบลงบนแผลของเธออีกครั้งแล้วผละเดินออกไป

เมื่อหนานฉิงไป คนอื่นๆถึงได้กล้าหายใจออกมา หญิงวัยกลางคนเจ็บจนจะเป็นลม แต่กระนั้นก็ยังฝืนกัดฟันต่อไป

ถึงคนอื่นๆไม่อยากจะทนแต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง ใครจะไปรู้ว่าหนานฉิงจะวกกลับมาเอาเรื่องอีกไหม

หนานฉิงไม่รู้เลย ว่าพฤติกรรมการระบายความโกรธใส่คนอื่นไปทั่วแบบนี้มันจะนำผลอย่างไรมาให้ตัวเอง

เป้ยฉ่ายเวยถึงที่หมายแล้ว เธออาศัยอยู่ในห้องพักที่หลี่จื่อเชียนหาไว้ให้ ติดต่อกับคุณหมอเรียบร้อยแล้ว รอแค่ทางโรงพยาบาลเตรียมพร้อม ก็จะสามารถทำการผ่าตัดได้ทันที

ทันทีที่เปิดเครื่องโทรศัพท์ขึ้นมาข้อความมากมายก็เด้งขึ้นพรึบ ส่วนใหญ่เป็นข้อความความเป็นห่วงจากอวี๋ซือซือ เพราะว่ามันเยอะมาก เป้ยฉ่ายเวยเลยไม่ได้เปิดดูทุกข้อความ คิดว่าตอนนี้ที่นั่นคงเป็นเวลาเช้าตรู่ จึงไม่คิดจะโทรไป ทำเพียงแค่ส่งข้อความไปหาเพื่อน

แต่ไม่คิดเลยว่าข้อความของเธอเพิ่งส่งไปได้ไม่ถึงสามนาที เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

เป้ยฉ่ายเวยยกขึ้นมากดรับ เสียงสดใสของอวี๋ซือซือก็ดังขึ้นมา “เวยเวยในที่สุดแกก็เปิดเครื่องสักที ฉันเป็นห่วงแกแทบแย่”

“อืม ฉันเพิ่งถึงที่พักน่ะ ก็เลยส่งข้อความไปหาเธอ” ได้คำพูดแสดงความเป็นห่วงของเพื่อนรัก ในใจของเป้ยฉ่ายเวยก็ก่อเกิดความอบอุ่นขึ้นมา

อวี๋ซือซือคุยสายไปกัดกินแอปเปิ้ลไป หมอบลงบนโซฟา ด้านหลังยังมีชายหนุ่มที่กำลังนวดให้เธอ สบายสุดๆไปเลย “เป็นไงบ้าง หลานรักฉันสบายดีไหม”

เป้ยฉ่ายเวยมองเด็กน้อยที่ล้มตัวลงนอนหายใจสม่ำเสมออยู่บนเตียง ก็หัวเราะขึ้นแล้วพูดว่า “รุ่ยรุ่ยสบายดีมาก นอนตลอดทางตอนอยู่บนเครื่องเลย”

“อ่อๆ งั้นก็ดีแล้ว ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกนิดหน่อย” อวี๋ซือซือพูดกับโทรศัพท์เสียงเบา ราวกับกลัวว่าจะมีคนอื่นได้ยินด้วย

คนอื่นที่ว่าแสดงออกว่าเขาจนใจ อีกทั้งยังเพิ่มแรงมือลงไปอีกด้วยเป้ยฉ่ายเวยกำลังจะถามว่ามีเรื่องอะไร ก็ได้ยินเสียงเพื่อนสนิทอุทานว่าโอ้ย จึงรีบถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงว่า “ซือซือ เธอเป็นอะไรไป”“เปล่าๆ แค่โดนหมาเหยียบน่ะ” อวี๋ซือซือมองค้อนถังฉีตง ราวกับกำลังเตือนเขาว่าระวังมือด้วยซือซือเลี้ยงหมาตอนไหนนะ? แต่เป้ยฉ่ายเวยก็ไม่ได้ถามซอกแซก “ซือซือ เธอมีเรื่องอะไรจะพูดหรอ” “อ่า เกือบลืมแหนะ ฉันอยากเตือนแกหน่อย แกอยู่ต่างประเทศก็ระวังหน่อยนะ ถ้าเจอคนน่าสงสัย อย่าลืมต่อยสักหมัดล่ะ” อวี๋ซือซือพูดขึ้น เป้ยฉ่ายเวยคิดว่าอวี๋ซือซือเป็นห่วงพวกเธอที่อยู่ต่างประเทศแล้วจะถูกแบ่งแยก ถึงอย่างไรที่นี่ก็ใช่ว่าจะมีคนเอเชียเยอะ “ซือซือ พวกฉันไม่เป็นอะไรหรอกคนที่นี่เป็นกันเองมาก ที่พักที่จื่อเชียนหาให้ก็สงบด้วย สภาพแวดล้อมก็ดี ไม่มีทางเกิดเรื่องที่เธอกำลังกังวลหรอกนะ”“เวยเวยแกพูดอะไร ที่ฉันพูดไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้” อวี๋ซือซือได้ฟังก็งงหน้าโง่ คิดดูอีกที ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเวยเวยกำลังเข้าใจที่เธอจะบอกผิดไป ที่พวกเธอพูดกันอยู่นี่มันคนละเรื่องแล้วเธอไม่ถือว่าอะไรพูดเถรตรงว่า “ที่ฉันหมายถึงก็คือให้เธอเตรียมรับมือกับฉูเจ๋อหยาง เขารู้แล้วว่าเธอกับหลี่จื่อเชียนไปด้วยกัน”แต่จากความเข้าใจของฉูเจ๋อหยางแล้ว คงคิดว่ามันคือการหนีตามกันแน่ๆ

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์