โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 281 เบี่ยงเบนความสนใจ

บทที่ 281 เบี่ยงเบนความสนใจ

“ใช่สิ เขารู้แล้ว” เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าตอนนี้รู้สึกเช่นไร แค่รู้แต่ว่าไม่สบายใจ เหมือนมีน้ำมะนาวมาราดรดที่หัวใจ เจ็บจี๊ดจนหดเล็กลง

อวี๋ซือซือฟังไม่ออกว่าโทนเสียงของเป้ยฉ่ายเวยเปลี่ยนไป เธอยังคงพร่ำเพ้อพรรณนา “เธอไม่รู้อะไร ตอนที่ฉูเจ๋อหยางมาหาฉันเขาน่ากลัวแค่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าหัวใจฉันแข็งแรงล่ะก็ ป่านนี้ตกใจหัวใจวายตายไปแล้ว”

“ฉันว่าเขาเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ตอนที่เธออยู่ก็ไม่รู้จักทะนุถนอมเธอ ตอนนี้รอให้เธอไปแล้วถึงจะเพิ่งมาตามหากันทั้งโลก สายไปแล้ว” พูดจบอวี๋ซือซือยังคงแสดงความรู้สึกสะใจ

ถังฉีตงพอได้ยินผู้หญิงของตัวเองพูดถึงพี่ชายที่แสนดีเขาก็ส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย แต่เขาอยู่เป็นก็เลยเลือกที่จะไม่เอ่ยปากอะไร ถ้าหากว่าช่วงนี้เธอเดือดขึ้นมา ที่เขาพยายามอย่างหนักมาตลอดทั้งคืนน่ากลัวว่ามันจะศูนย์เปล่า

เพื่อผลประโยชน์แล้ว ก็คงได้แต่เสียสละชื่อเสียงของพี่ชาย

เป้ยฉ่ายเวยหายใจออกเฮือกหนึ่ง อุณหภูมิในห้องหนาวจับใจ ที่มุมดวงตาเอ่อไปด้วยไอร้อนของน้ำตาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หมอกหนาถาโถม มันเอ่อล้นจนแทบจะชุ่มไปถึงขนตา

“ซือซือ เธอ ไม่ได้บอกเขาใช่ไหม”

เมื่อได้ยินว่าฉูเจ๋อหยางกำลังตามหาเธอ เธอก็รู้สึกไม่มีความสุข ตรงตำแหน่งหน้าอกรู้สึกจุกจนไม่สามารถหายใจได้

“เปล่านะ ฉันจะทำอย่างนั้นได้ไง อีกอย่างฉันก็ไม่รู้สักหน่อยว่าเธออยู่ที่ไหน ตอนนี้เธอก็ห้ามบอกฉันเด็ดขาด ไว้ถึงเวลาแล้วฉันจะบอกเธอเอง”

อวี๋ซือซือมองถังฉีตงซึ่งไม่ค่อยชอบใจด้วยความระมัดระวัง เหอเหอ ฉันมีสายลับตัวโตอยู่ข้างกาย

“ได้” เป้ยฉ่ายเวยทุบหน้าอกและพยายามทำเสียงตัวเองให้ราบเรียบ “ซือซือ ดึกแล้ว เธอรีบเข้านอนเถอะ ไว้มีเวลาค่อยคุยกัน”

“ห๊า แต่ว่าเวยเวย ฉันยังไม่ง่วงเลย…” อวี๋ซือซือพูดยังไม่ทันจบ เป้ยฉ่ายเวยที่ปลายสายก็วางไปเรียบร้อยแล้ว ทำเอาเธอหน้าเหวอ “นี่มันเรื่องอะไรกัน”

ถังฉีตงมองผู้หญิงหน้าโง่ทีหนึ่ง เขาอดไม่ไหวที่จะเตือนเรื่องความเขลาของเธอด้วยความหวังดี “คุณพูดมากเกินไปแล้ว”

ในฐานะที่เขาเป็นเพื่อนที่รู้จักทั้งสองฝ่ายจึงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร เห็นได้ชัดว่าทั้งสองยังคงมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน แต่กลับชอบทำร้ายกัน

อาเจ๋อมีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ไม่สามารถตีตัวออกจากตระกูลหนานได้ มันเป็นความกตัญญูที่หนักอึ้ง เขาแค่คิดว่าเวยเวยอย่างไรจะต้องอยู่เคียงข้างเขาแน่นอน แต่ปรากฏว่าเธอไปจริงๆ เขาจึงเริ่มวิตกกังวล

“ฉันพูดมากไปตรงไหน” อวี๋ซือซือไม่รู้สึกว่าตัวเองพูดผิดตรงไหน

“...” ถังฉีตงไม่มีอะไรจะพูดอีก ได้แต่ปล่อยให้เธอคิดเอาเอง

“ฉันผิดตรงไหน ฉันไม่ได้พูดอะไรผิดซะหน่อย ต้องเป็นเพราะสัญญาณต่างประเทศไม่ดีแน่!”

อีกทางหนึ่งเป้ยฉ่ายเวยกำโทรศัพท์ที่เพิ่งจะวางสายไว้แน่น ร่างกายเธอเหมือนจะอ่อนแรงลงในทันที ตัวอ่อนพิงกำแพงตาไม่กระพริบน้ำตาหยดถูกปลายเท้าราวกับมีก้อนหินมากะเทาะที่หัวใจเธอ

เธอคิดว่าตัวเองคงไม่แคร์ แต่ผลปรากฏว่ากลับไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ เธอมองไปที่ชายตัวน้อยที่หลับอยู่บนเตียง เป้ยฉ่ายเวยพยายามสะกดอารมณ์ทั้งหมดของตัวเองไว้อีกครั้ง

จะเศร้าไม่ได้ ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องให้ความสนใจก็คือการผ่าตัดของรุ่ยรุ่ย รอให้การผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้วยังต้องคอยดูแลให้ร่างกายรุ่ยรุ่ยได้พักฟื้นอีก ไม่มีเวลาที่จะคิดถึงเรื่องอื่น

เป้ยฉ่ายเวยใช้วิธีสะกดอารมณ์ตัวเองเอาไว้เช่นนี้อยู่หลายวันเพื่อที่จะพารุ่ยรุ่ยไปยังต่างประเทศอย่างสงบสุข โดยปกติก็จะเป็นหลี่จื่อเชียนที่ขับรถพาพวกเขาไปไหนมาไหน และถือโอกาสจ่ายกับข่าวเพื่อซื้อไปทำทานเอง

ในประเทศนั้น ฉูเจ๋อหยางได้รับวิดีโอบันทึกภาพแสดงให้เห็นว่าเป้ยฉ่ายเวยและหลี่จื่อเชียนเดินทางออกนอกประเทศไปด้วยกันแต่กลับไม่เห็นเงาของเด็ก

เพราะว่าวิดีโอนั้นได้ถูกหนานฉิงพบเห็นก่อนจึงได้ให้คนจัดการตัดต่อไปเรียบร้อยแล้ว เธอรู้ว่าปกปิดก็ไม่มีประโยชน์อะไร เขาจะรู้เรื่องอยู่ดีไม่ช้าก็เร็ว สู้ตัดต่อคลิปวิดีโอและให้เขาได้เข้าใจไปว่าเป้ยฉ่ายเวยและหลี่จื่อเชียนหนีตามกันไปสองคนดีกว่า

“ทนายฉู คุณเห็นแล้ว ยังจะให้ตามหาต่อไปอีกรึเปล่า”

ในออฟฟิตไม่มีการตอบสนองอยู่เป็นเวลานาน ฉูเจ๋อหยางจ้องผู้โดยสารสาวกับชายที่ด้านข้างบนหน้าจอด้วยสายตาเย็นชา ภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่าหญิงสาวไม่อาจซ่อนความยินดีเอาไว้ได้

“คลิก” เบาๆเสียงหนึ่ง ชายที่ด้านล่างเห็นปากกาลูกลื่นในมือฉูเจ๋อหยางแตกออก ตาเขาทะเลิ่กทะลั่ก

ปากกาอะ เป็นปากกาเหล็กแท้และยังเป็นยี่ห้อมองบลังค์อีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฝีมือหรือคุณภาพไม่เป็นที่สองรองใคร ตอนนี้รู้สึกว่าน่าเสียดายนัก

มูลค่าปากกามองบลังค์น่าจะราวๆอย่างน้อยสามหมื่น ด้วยแรงข้อมือนี้ เขาถอนหายใจอย่างคนอ่อนหัด

“เรียกคนกลับ” ผู้หญิงไร้ยางอายเช่นนั้น เขาฉูเจ๋อหยางไม่ต้องการ เมื่อปล่อยมือ อีกท่อนหนึ่งของปากกาก็กลิ้งไปตามโต๊ะ

“ครับ” ชายคนนั้นรับคำด้วยความเคารพจากนั้นก็หันหลังกลับไป ครู่ถัดมาเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตายอยู่ข้างใน เป็นการตายที่น่าสังเวชที่สุด กลัวจนตาย

ทนายฉูรู้สึกแน่นหน้าอกหายใจติดขัด น่ากลัวมาก เขาไม่มีแรงที่จะเดินไปสู่เป้าหมายอีกแล้ว

ท้องฟ้าของบริษัทกฎหมายติ่งเซิ่งจู่ๆก็ดูเหมือนมีเสียงฟ้าผ่าลงมา ฟ้าผ่าฟ้าร้องจนทำเอาบรรดากุ้งหอยปูปลาทั้งหลายพากันกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง

ทุกคนต่างรู้ว่าช่วงนี้ทนายใหญ่ฉูของพวกเขาอารมณ์ไม่ค่อยดี ใครไปลูบคมเขาตอนนี้ รับรองได้ตายแน่

ในขณะที่ทุกคนกำลังใจสั่น ทำทุกอย่างอย่างระมัดระวัง กลัวว่าคนที่ถูกเรียกเข้าไปจะเป็นตัวเอง

“ปัง” เสียงหนึ่ง ชายคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมแฟ้มเอกสารด้วยหน้าตาหดหู่

“ว่าไง ให้กลับมาใหม่หรอ”

“ใช่สิ” ชายคนนั้นพยักหน้าอย่างท้อใจ

เพื่อนร่วมงานข้างๆตบไหล่ปลอบใจเขาอย่างเห็นใจ “ไม่เป็นไร ผมก็โดนปฏิเสธมาสามรอบแล้ว”

พร้อมถอนหายใจอีกหลายครั้ง

ใครต่างก็ไม่ทราบว่าทำไมทนายฉูถึงได้กลายเป็นคนหงุดหงิดโมโหร้าย พวกเขาอยากเรียกหลินไห่ไปถาม หลินไห่เองก็ยุ่งจนหัวหมุน พวกเขาแค่ส่งโน้ตให้ก็พอ ทุกวันนี้เขาก็เป็นเลขาผู้น่าสงสารผู้ต้องเผชิญหน้ากับปีศาจร้ายอยู่ทุกวัน คนที่น่าปลอบใจที่สุดก็คือเขาโอเคไหมแต่ว่าเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมอยู่ๆทนายฉูถึงได้เปลี่ยนไปเป็นอารมณ์แปรปรวนอย่างนี้เหมือนกับว่า เหมือนกับว่าอกหักอย่างนั้น….แต่ว่าเขาก็ไม่กล้าพูด ถ้าพูดขึ้นมาเขาโดนแน่“ประธานถัง ในที่สุดคุณก็มาแล้ว”“ประธานถัง ไม่เจอกันนานเลย ทำไมสองสามวันนี้ไม่แวะมาหาพวกเราเลย” “ประธานถัง หิวน้ำมั๊ยครับ อยากทานอะไรไหม ของว่างหน่อยไหมครับ”ถังฉีตงได้รับการต้อนรับอย่างกระตือรือร้น ทำไมทุกคู่สายตาถึงได้จ้องมองตนด้วยสายตา “ไร้สาระ” มองราวกับว่าเขาเป็นฮีโร่ เขาได้ทำเรื่องอะไรที่ดีงามเอาไว้เรอะช่วงนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่นา เขาจ้องหลินไห่เป็นเชิงถามไถ่ว่านี่มันเรื่องอะไรกันหลินไห่โบกมือให้คนเหล่านั้นรีบไปทำหน้าที่ของตัวเอง ส่วนเขาก็ดึงถังฉีตงให้เดินไปทางห้องสำนักงาน เดินไปพลาง พูดอย่างตื่นเต้นไปพลาง “พี่ตง ในที่สุดพี่ก็มาซะที”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์