โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 283 คนเราพบกันถือเป็นวาสนา

บทที่ 283 คนเราพบกันถือเป็นวาสนา

“ตรวจสอบพบที่อยู่แล้ว คุณจะมาเอาเมื่อไหร่”

“คุณแค่ส่งมาให้ฉันก็ได้” หนานฉิงมองหลี่อ๋าวด้วยความนับถือในประสิทธิภาพการทำงานของเขา มืออาชีพช่างแตกต่างกันเสียจริง ไม่ถึงวันก็สามารถตรวจสอบหาที่อยู่ที่ถูกต้องได้แล้ว

แต่ว่าจะให้เธอไปพบเขาตามลำพัง เธอก็ยังไม่ค่อยวางใจนัก

หลี่อ๋าวไม่ได้บังคับหนานฉิง เขาแค่พูดต่อไป จะไปไม่ไปก็แล้วแต่เธอ “คุณหนูหนานถ้าคุณหนูอยากจะได้ อย่าลืมว่ามาหาผมได้ที่ร้านชาหงหยวน ไม่เจอไม่ปล่อยข้อมูล”

“ตู๊ดตู๊ดตู๊ด”โทรศัพท์ถูกคนตัดสาย หนานฉิงกำโทรศัพท์แน่นพร้อมสีหน้าเกลียดชัง หลี่อ๋าวรู้ว่าเธอปฏิเสธไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขากล้าหยิ่งใส่เธอเช่นนี้

เพื่อที่จะได้ที่อยู่ของเป้ยฉ่ายเวย เธอจึงเบี้ยวนัดไม่ได้

หนานฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ขอเพียงให้เป้ยฉ่ายเวยได้ตายทั้งเป็น เธอต้องลำบากเล็กน้อยก็ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างหลี่อ๋าวก็คงไม่กล้าทำอะไรเธอ

ขอเพียงฆ่าไอ้สารเลวนั่น เธอแค่มองหาเจ๋งๆมาสักคนเพื่อที่จะกำจัดหลี่อ๋าวออกไป แค่นี้เธอก็กลับไปเคียงข้างอาเจ๋อได้อย่างปลอดภัย

หนานฉิงคิดโน่นคิดนี่แต่ดันลืมไปว่าหลี่อ๋าวเป็นนักฆ่าที่กัดไม่ปล่อย ไม่มีคำว่าแพ้ในโลกของเขา

พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันนัดผ่าตัดของรุ่ยรุ่ย เป้ยฉ่ายเวยให้ความร่วมมือกับทางโรงพยาบาลในการเตรียมตัวอย่างเต็มที่ในการตระเตรียมสิ่งที่จำเป็น

หลี่จื่อเชียนรับโทรศัพท์สายหนึ่ง พอมีเวลาที่จะอธิบายให้เป้ยฉ่ายเวยฟังเล็กน้อยก่อนที่จะบินกลับไปด้วยเที่ยวบินพิเศษ

“รุ่ยรุ่ย ลูกกลัวไหมครับ” เป้ยฉ่ายเวยลูบศีรษะน้อยๆของเขาขณะถาม

รุ่ยรุ่ยส่ายศีรษะพร้อมพูดว่า “มีแม่อยู่ รุ่ยรุ่ยไม่กลัว”

เขารู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้างเท่านั้น…..

เป้ยฉ่ายเวยทำไมถึงจะไม่รู้ทันลูก เขาไม่ได้เป็นกังวลเกี่ยวกับตัวเขาเอง เขาจึงแกล้งตอบเหมือนว่าไม่มีอะไร “รุ่ยรุ่ยวางใจเถอะ แม่จะอยู่ข้างลูกเสมอ ตอนนี้เราออกไปทานข้าวกันก่อนดีไหมครับ วันนี้ให้รุ่ยรุ่ยเลือกเลย”

“ดีครับ ดีครับ แม่ครับเราไปทานพิซซ่าฮัทกันนะ” หมู่นี้เขาชอบทานพิซซ่าฮัทมาก แต่แม่กลับไม่ค่อยยอมให้เขาทานสักเท่าไหร่

เป้ยฉ่ายเวยคิดสักพัก พรุ่งนี้บ่ายถึงจะผ่าตัด ทานตอนนี้ก็คงย่อยหมดไปแล้วจึงได้ตอบตกลง “ได้ ถ้างั้นแม่จะพาลูกไปทานพิซซ่าฮัท”

“เยี่ยมไปเลย แม่น่ารักที่สุด” รุ่ยรุ่ยร้องไชโยด้วยความดีใจ ใบหน้าน้อยๆเปี่ยมล้นไปด้วยรอยยิ้มที่ส่องสว่างกว่าดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า นั่นช่วยปัดเป่าความโศกเศร้าออกไปจากหัวใจเป้ยฉ่ายเวยได้ไม่น้อยเลย

การผ่าตัดพรุ่งนี้ ไม่มีใครตื่นเต้นกว่าเธออีกแล้ว แม้ว่าหมอจะบอกว่าอัตราความสำเร็จจะอยู่ที่เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ว่าเธอก็ไม่กล้าคิดถึงสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือ

เมื่อไหร่ที่คิดถึงความเป็นไปได้เหล่านั้น เธอก็รู้สึกเหมือนว่าจะหายใจไม่ออก

เป้ยฉ่ายเวยช่วยรุ่ยรุ่ยเปลี่ยนเสื้อเชิ้ตและกางเกงขาสั้น จากนั้นก็ใส่หมวกยอมแหลมให้เขาอีกใบ เธอห่วงว่าเขาจะตากแดดตากฝน ท้องฟ้าในต่างประเทศไม่ได้สดใสเหมือนในบ้านเราเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะละติจูดที่แตกต่างกัน

เมื่อเดินออกจากห้องปรับอากาศ ผิวก็สัมผัสกับคลื่นความร้อนที่แผ่เข้ามา

รังสียูวีนั้นแผดเผามาก แม้แต่เป้ยฉ่ายเวยยังต้องคอยทาครีมกันแดดให้ตัวเองตลอด โชคดีที่ก่อนหลี่จื่อเชียนจะไปเขาได้สั่งให้ลูกน้องและคนขับรถอยู่คอยรับคำสั่งจากเธอ ทำให้เธอไม่ต้องลำบากนัก

อย่างวันนี้ที่พวกเขาจะออกไปข้างนอก ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกรถแท็กซี่ก็สามารถไปถึงพิซซ่าฮัทในตัวเมืองได้เลย

สิ่งที่เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ก็คือ เมื่อเธอกำลังก้าวเท้าขึ้นรถกับรุ่ยรุ่ย มีเท้าของใครบางคนกำลังตกกระทบลงบนพื้นดินแห่งนี้

ไม่ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายแค่ไหน ไม่ว่าจะร้อนอีกกี่องศา ฉูเจ๋อหยางก็จะยังคงใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมสูทดำเสมอ แถมยังผูกเน็คไทอย่างพิถีพิถัน ช่างดูเย็นชาและน่าเกรงขาม

อากาศร้อนขนาดนี้ แต่เขาไม่มีเหงื่อบนหน้าผากสักเม็ด ช่างเป็นสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งเสียจริง

ใช่แล้ว เมื่อวานนี้เขาให้คนจองตั๋วเครื่องบิน วันรุ่งขึ้นก็บินมา ไม่ใช่เพราะอะไร พอดีเขาต้องเดินทางมาทำธุรกิจที่นี่ แค่เท่านั้นแหละ

เบนท์ลีย์คันใหญ่จอดอยู่ตรงหน้าทางเข้าสนามบิน คนขับโน้มตัวลงเปิดประตูพร้อมกล่าวด้วยความเคารพว่า “ทนายฉู เชิญขึ้นรถครับ”

ฉูเจ๋อหยางดันแว่นกันแดดขึ้นบนสันจมูกและไม่ได้พูดอะไร เขาโน้มตัวลงและเข้าไปในรถ

หลินไห่ผู้ถูกเรียกให้ไปร่วมทริปธุรกิจด้วยกันนั้นถือกระเป๋าเอกสารตามมาต้อยๆ เขาเพิ่งได้ทราบข่าวเมื่อวานว่าจะเดินทางไปทริปต่างประเทศ ทำเอาเขาประหลาดใจไม่น้อย ทำเอาเขางงจนเสียศูนย์ ธุรกิจของพวกเขาเติบโตไปไกลถึงต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่

เมื่อเห็นเอกสารที่ทนายฉูมอบให้เขาถึงได้รู้ ที่แท้เรื่องเป็นอย่างนี้นี่เอง บริษัทจีนในต่างประเทศกำลังมีข้อพิพาทกับบุคคลภายนอก พวกเขาเป็นกังวลว่าทนายของตนจะยังไม่ดีพอ จึงตั้งใจเชิญทนายฉูของพวกเขาไปเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์

ดังนั้นเขาจึงต้องตามไปดูงานด้วย

ฉูเจ๋อหยางเข้าเช็คอินที่โรงแรมห้าดาว แล้วก็รีบออกไปพบลูกค้าทันที แต่ว่ากลับเทผู้ติดตามซะอย่างนั้น ตัวเองขับรถออกไปเอง

ภายในร้านพิซซ่าฮัท เป้ยฉ่ายเวยกำชับให้รุ่ยรุ่ยนั่งรอที่ม้านั่ง เธอไปยืนต่อแถว รุ่ยรุ่ยตัวน้อยกระดิกเท้าและพยักหน้าอย่างชาญฉลาด

เป้ยฉ่ายเวยเพิ่งจะเดินออกไปไม่นาน ชายที่ดูร้อนในชุดสูทก็ผลักประตูเข้ามา แม้ว่าใบหน้าจะเป็นชาวเอเชีย แต่ว่ารูปร่างสูงใหญ่ราวกับชาวต่างชาติคนหนึ่ง ออร่านั้นเปล่งประกายราวกับจะฆ่าทุกผู้ทุกคน

ประกอบกับใบหน้าอันโดดเด่น ทุกสายตาถูกดึงดูดให้ต้องเหลียวไปมอง

ในร้านมีการเคลื่อนไหวขนาดนั้น เป้ยฉ่ายเวยจะไม่รู้ตัวได้อย่างไร เธอเผลอมองไปโดยบังเอิญ เกือบจะสบสายตากับเขาเข้าแล้ว มือเธอสั่นจนแทบทำถาดตกจากมือ

แย่แล้ว ตาฉูเจ๋อหยางนั่นมาที่นี่ได้อย่างไร!!

เขาควรที่จะนั่งตากแอร์อยู่ในออฟฟิต จัดการกับธุรกิจที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด ไม่ก็คอยตามไปแสดงความรักต่อหนานฉิง ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้เมื่อคิดถึงว่ารุ่ยรุ่ยกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางผู้คน เป้ยฉ่ายเวยก็ตกใจ เธอจะให้ฉูเจ๋อหยางเห็นรุ่ยรุ่ยไม่ได้แต่ว่าที่นั่งที่เธอเลือกนั้น ยังมองเห็นเงาของรุ่ยรุ่ย ครู่หนึ่งใบหน้าเป้ยฉ่ายเวยก็เริ่มขาวซีด ทำยังไงดี เธอกำลังจะเสียรุ่ยรุ่ยไปอย่างนั้นหรอก่อนที่เป้ยฉ่ายเวยจะเป็นลมไป มือน้อยๆก็มาเกาะที่ชายเสื้อของเป้ยฉ่ายเวย หนำซ้ำยังทำท่าทางกระซิบกระซาบกับเป้ยฉ่ายเวย ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูนั้นทำเอาผู้คนต่างพากันอมยิ้ม“แม่ เบาๆนะ ผมเห็นพ่อมา”เป้ยฉ่ายเวยเห็นว่ารุ่ยรุ่ยวิ่งมาหาเธอด้วยตัวเอง เธอจึงถอนหายใจโล่งอก แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด หัวใจเธอก็เต้นรัวอีกครั้ง ใช่แล้ว ปัญหาใหญ่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขเธอต้องการที่จะพารุ่ยรุ่ยแอบออกไปทางประตูหลัง แต่ว่าโชคร้ายที่ช้าเกินไป เธอถูกพบซะแล้วเป้ยฉ่ายเวยมองชายสีหน้าหดหู่และน่ากลัวกำลังเดินเข้ามาหาเธอ หัวใจเธอเต้นจนแทบจะหลุดออกมาจากอก ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี เขากำลังเดินมาแล้ว เดี๋ยวเขาต้องเห็นรุ่ยรุ่ยแน่เธอจะเสียรุ่ยรุ่ยไปไม่ได้ ต่อสู้มาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรจะแพ้ไม่ได้!!

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์