โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 284 จะ “หลอกลวง” ต่อไปได้อย่างไร

บทที่ 284 จะ “หลอกลวง” ต่อไปได้อย่างไร

ท่ามกลางฝูงชนใครก็ไม่รู้ตะโกนขึ้นมาว่า “อย่าตีผม อย่าตีผม ผมไม่กล้าอีกแล้ว”

ทุกคนพากันนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่สายตาทุกคู่จะหันไปมองที่ฉูเจ๋อหยาง เมื่อเห็นฉูเจ๋อหยางกำลังเข้าใกล้พวกเขาก็พากันคิดตัดสินกันไปต่างๆนาๆ

ชายตรงหน้าต้องเป็นคนที่ใช้ความรุนแรงในครอบครัวแน่ ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นนะ

คนเราไม่อาจตัดสินกันด้วยหน้าตา ใครจะรู้ว่าหน้าตาดีขนาดนี้แต่กลับใจร้ายเหมือนหมาป่า

คนอื่นอาจจะฟังไม่ออก แต่ว่าเป้ยฉ่ายเวยได้ยินแวบเดียวก็รู้ เสียงที่พูดออกมานั้นก็คือรุ่ยรุ่ยที่อยู่ข้างเธอนั่นเอง เพียงแต่ว่าเสียงนั้นออกจะเพี้ยนๆไป เธอตอบสนองอย่างรวดเร็ว เธอเข้าใจความหมายของรุ่ยรุ่ยในทันที

แม้ว่าตอนนั้นจะเป็นช่วงเวลาตึงเครียด แต่เป้ยฉ่ายเวยก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มแต่เธอพยายามกลั้นเอาไว้ เธอแกล้งทำเป็นได้รับความเจ็บปวดและหวาดกลัว เธอพยายามก้าวถอยไปเรื่อยๆ “ช่วยฉันด้วย ฉันไม่อยากกลับไปกับเขา เขาจะต้องซ้อมฉันแน่ อย่าทำฉัน อย่าทำฉัน”

“ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่กล้าอีกแล้ว อ้า ที่รัก…”

คนอื่นพอได้ยินเรื่องทำร้ายกันในครอบครัว สายตาที่มองฉูเจ๋อหยางก็เปลี่ยนไป หลายคนกระตือรือร้นพยายามเข้ามาบังอยู่ข้างหน้าเป้ยฉ่ายเวย เพื่อไม่ให้ฉูเจ๋อหยางได้เข้าใกล้

ต่างคนต่างแย่งกันพูด “คุณรังแกผู้หญิงอย่างนี้ได้อย่างไรกัน”

“คุณกำลังทำให้ผู้ชายอย่างเราต้องขายหน้านะ ทำร้ายภรรยาของตัวเองได้ยังไง”

“เฮ่อ พระเจ้าช่วย น่ากลัวซะเหลือเกิน หวังว่าคุณจะค่อยๆคุยกับภรรยาคุณดีๆนะ”

ฉูเจ๋อหยางแค่รู้สึกร้อนและต้องการหาที่พักผ่อน ไม่คิดว่าเดินเตร็ดเตร่ยังไม่ได้ไปถึงไหน ไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆก็ได้พบกับผู้หญิงทรยศคนนี้

เขายังไม่ทันได้เดินเข้าใกล้ ผู้หญิงคนนั้นก็ดันพูดเรื่องเขาเป็นคนชอบใช้ความรุนแรงขึ้นมา นัยน์ตาฉูเจ๋อหยางหรี่ลง ได้ กล้าบ้าบิ่นขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ

เป้ยฉ่ายเวยได้รับคำเตือนจากสายตาผู้ชายคนนั้น ทีแรกเธอก็มองเขาอย่างสะใจ พร้อมกันนั้นก็พูดอย่างไร้ทางสู้แลดูน่าสงสาร “พวกคุณช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วยนะคะ ถ้าหากว่าฉันถูกเขาเอาตัวกลับไป ฉันต้องตายแน่ๆ”

ผู้คนรอบๆเห็นหญิงสาวผู้อ่อนแอร้องขอความช่วยเหลือ พวกเขาก็รู้สึกสะเทือนใจ ยิ่งพากันปิดกั้นฉูเจ๋อหยาง

เป้ยฉ่ายเวยใช้ฝูงชนมากั้นฉูเจ๋อหยางไว้ เธอรีบอุ้มรุ่ยรุ่ยและก้มตัววิ่งหนีไปทางประตูหลัง

วิ่งไปพลางก็แตะจมูกน้อยของเขาไปพลางและพูดอย่างชื่นชม “รุ่ยรุ่ย ลูกช่างมีไหวพริบ”

รุ่ยรุ่ยยิ้มกว้างให้เป้ยฉ่ายเวยราวกับเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่

ฉูเจ๋อหยางขมวดคิ้วและมองไปรอบๆ เขาเห็นว่าผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นน่าสงสารนั้นหายไปแล้ว ริมฝีปากเยือกเย็นนั้นก็เผยอออก เขาพุ่งตรงเข้าไปยังเหล่าบรรดา “ผู้กระตือรือร้น”ทั้งหลาย “หลีกไป หล่อนหนีไปแล้ว”

คนอื่นๆพากันหายใจไม่ออกด้วยเสียงลมหายใจที่ดังจากชาวเอเชียคนนี้ ในทางกลับกัน ผู้หญิงตัวน้อยที่พวกเขาช่วยกันปกป้องก็ได้หลบหนีไปได้แล้ว

พวกเขาไม่ได้โมโห แต่กลับรู้สึกว่าพวกเขาได้ทำเรื่องดีๆ “ดีจัง หวังว่าหล่อนจะหาที่หลบซ่อนได้”

“ถ้าหากว่าผู้หญิงคนนั้นต้องการทนาย ผมสามารถช่วยจัดการหาให้ได้” ชายสูงใหญ่คนหนึ่งพูดยั่วโทสะฉูเจ๋อหยาง ที่จริงแล้วแม่ตุ๊กตาตัวน้อยชาวเอเชียนั่นก็ดูสวยอยู่ไม่เบา ชายตรงหน้าไม่คู่ควรกับผู้หญิงดีๆเช่นนี้

หาทนายเรอะ อ้อ ฉูเจ๋อหยางมองผู้ชายคนนั้นอย่างเย็นชา จนกระทั่งชายคนนั้นต้องหลบสายตาไปเอง เขาเปิดปากพูดชัดถ้อยชัดคำ “ถ้าหากจะหาทนาย ก็ยินดีทุกเมื่อ ขอให้เอาชนะผมได้ก็แล้วกัน”

พูดจบเขาก็ไม่ทนอยู่ หันหลังกลับและเดินออกทางประตูหน้า เขาจะยังเห็นเงาเป้ยฉ่ายเวยอยู่อีกหรือ

เรื่องเป็นอย่างนี้ฉูเจ๋อหยางซึ่งอ่อนหัดจึงอดไม่ได้ที่จะโวยวายสบถออกมา “เป้ยฉ่ายเวยสวดมนต์ภาวนาได้เลยว่าอย่าให้ผมหาตัวคุณเจอนะ”

เขารู้ว่าผู้หญิงที่มีไหวพริบคนนั้นจะไม่กลับมาแน่ อีกทั้งมือถือในกระเป๋าก็สั่นอยู่ตลอด เขาต้องกลับไปที่โรงแรมก่อนแล้ว

ที่จริงแล้วเป้ยฉ่ายเวยไม่ได้หนีไปไหนไกล เขาพารุ่ยรุ่ยไปหลบอยู่ที่มุมหลังแผ่นไม้ เธอยังได้ยินคำที่ฉูเจ๋อหยางตะโกนออกมาก่อนจะจากไปด้วย เธอรออยู่สิบนาที เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไปแล้วจริงๆ

เธอถึงกล้าโผล่หัวขึ้นมา มองดูทางเดินอันว่างเปล่า สภาพจิตใจก็กลับมาหดหู่ตามเดิม แต่ใจกลับรู้สึกถึงความสูญเสียอันไม่รู้จักจบจักสิ้น

เป้ยฉ่ายเวยไม่อยากมโนไปเองว่าฉูเจ๋อหยางขาดเธอไม่ได้ดังนั้นจึงตั้งใจมาตามหาเธอ เขาคงแค่คิดว่าผู้ชายเป็นใหญ่เสมอ รู้สึกว่าการที่เธอหนีไป มันคงทำให้เขาเสียหน้า

“แม่ ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้มาที่นี่ครับ” รุ่ยรุ่ยรู้ว่าเป้ยฉ่ายเวยเสียใจเพราะฉูเจ๋อหยางถึงได้หนีมา เขาไม่ต้องการจะใส่ใจ “พ่อ” เช่นนี้แล้ว

คนที่รังแกแม่ไม่ใช่คนดี ต่อให้เป็น “พ่อ” ก็ไม่ได้

เป้ยฉ่ายเวยรีบตั้งสติ เธอยกมือขึ้นสัมผัสศีรษะน้อยๆของรุ่ยรุ่ยผู้น่ารัก แต่สายตาเธอนั้นยังคงล่องลอย “รุ่ยรุ่ย อย่าว่าพ่ออย่างนั้น เป็นความเห็นแก่ตัวของแม่เองที่ไม่อยากให้เขาได้เจอลูก”

นี่เป็นข้อพิพาทระหว่างผู้ใหญ่ เธอไม่อยากให้รุ่ยรุ่ยเกลียดฉูเจ๋อหยาง เพราะว่าการที่ลูกเกิดมาได้ก็เป็นเพราะเขาเป็นผู้ให้กำเนิด อีกอย่างฉูเจ๋อหยางเองก็ไม่ได้รู้ว่าตัวเองมีลูก

“แต่ว่าเขารังแกแม่เขาย่อมไม่ใช่คนดี” รุ่ยรุ่ยตอบเสียงแข็ง

เป้ยฉ่ายเวยก้มลงมองใบหน้าน้อยๆอันฮึกเหิมของเจ้าซาลาเปาน้อย เธออดอมยิ้มไม่ได้ เธอย่อตัวลงมองเขาระดับสายตาพร้อมกับกล่าวสรรเสริญ “เมื่อครู่นี้รุ่ยรุ่ยของแม่สุดยอดมาก ฉลาดมาก เก่งกว่าแม่อีก”

อยู่ๆคำพูดนั้นก็ทำให้รุ่ยรุ่ยรู้สึกภาคภูมิใจจนปรากฏให้เห็นบนใบหน้าอีกครั้ง หน้าเขาแดงจนมองดูน่ารัก “เพราะว่าผมรู้ว่าแม่ไม่อยากให้พ่อเจอผมครับ”

“อ้อ รุ่ยรุ่ยยังอยากทานพิซซ่าอยู่มั๊ยครับ” พิซซ่าฮัทร้านนี้เธอไม่กล้าเข้าไปอีกแล้ว ไม่รู้ว่าฉูเจ๋อหยางจะปรากฏตัวอีกไหม แต่ทางที่ดีที่สุด เธอไม่ต้องการที่จะเข้าไปอีกแล้ว

ดีที่ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อการผ่าตัดของรุ่ยรุ่ย รุ่ยรุ่ยเพิ่งจะวิ่งมาเลยทำให้เหนื่อยอยู่บ้าง หลังจากนั้นไม่นานก็เหงื่อออกเต็มหลัง แต่เขาไม่ต้องการให้เป้ยฉ่ายเวยเป็นห่วง เขาจึงพูดอย่างร่าเริง “แม่ ผมไม่อยากทานแล้ว เรากลับไปสั่งแมคโดนัลล์ดีไหมครับ”“ได้” เป้ยฉ่ายเวยเอากระดาษทิชชู่ออกมาจากกระเป๋าและเช็ดเหงื่อให้กับเขา เธอไม่ทันฉุกคิด ลืมไปว่าร่างกายรุ่ยรุ่ยไม่สามารถออกกำลังกายอย่างหนักได้เป้ยฉ่ายเวยโทรหาคนขับรถให้เขาขับรถกลับมารับในที่สุดก็หลบหนีมาได้อย่างใจหายใจคว่ำ เป้ยฉ่ายเวยเหนื่อยจนนั่งจ้ำเบ้าลงกับเบาะไม่อยากขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ชายตัวเล็กก็พิงเธออยู่ข้างๆ เธอไม่กล้าที่จะเปิดแอร์แรงเกินไป กลัวว่าเดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อนกะทันหันจะทำให้ลูกไม่สบายคิดแล้วเธอก็ยอมให้รุ่ยรุ่ยดูทีวีในห้อง ส่วนตัวเองก็หยิบโทรศัพท์เดินออกไปคุยข้างนอกเป้ยฉ่ายเวยโทรตอนนี้โดยไม่แคร์ อีกทางหนึ่งอวี๋ซือซือกำลังนอนหลับอยู่ หัวเธอแทบจะระเบิดหลังจากโทรอยู่สองรอบ ในที่สุดอวี๋ซือซือทางนั้นก็รับสาย ปากเธอด่าอย่างสะลึมสะลือ “ไอ้หน้าไหนวะ โทรมากลางดึกกลางดื่น”“ซือซือฉันเอง” เป้ยฉ่ายเวยถามเข้าประเด็น “เธอรู้รึเปล่าว่าฉูเจ๋อหยางมาหาฉันที่นี่”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์