โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 285 ความสกปรกของคุณทำให้ฉันรู้สึกป่วย

บทที่ 285 ความสกปรกของคุณทำให้ฉันรู้สึกป่วย

“อะไรนะ” อวี๋ซือซือยังคงไม่ตื่น

เป้ยฉ่ายเวยจึงตะโกนพูดอีกรอบ ครั้งนี้เธอพูดอย่างตรงไปตรงมา “ฉันเพิ่งเจอกับฉูเจ๋อหยางที่พิซซ่าฮัท”

“เธอกับรุ่ยรุ่ยกลับมาแล้วหรอ” อวี๋ซือซือยังไม่ได้สติ หลังจากที่เธอตั้งสติดีแล้วเธอถึงเข้าใจสิ่งที่เป้ยฉ่ายเวยพูด เธอลุกขึ้นจากเตียงในทันที “พระเจ้าช่วย ฉูเจ๋อหยางไวเป็นบ้าเลย แล้วเธอถูกจับได้รึเปล่า”

ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะจับคนได้

ชายซึ่งแกล้งหลับอยู่ข้างๆนั้นมีท่าทีสำนึกผิด เขาทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น

เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกหดหู่มาก ซือซือก็ไม่รู้ที่อยู่ของเธอ ก็ไม่สามารถบอกฉูเจ๋อหยางได้ เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอไปที่ไหน “ยัง เกือบไปแล้ว ดีนะที่รุ่ยรุ่ยแก้ไขสถานการณ์ไว้ได้”

เธอเล่าเรื่องไหวพริบของรุ่ยรุ่ยที่ร้านพิซซ่าฮัทให้เพื่อนรักฟัง ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะจนเสียงดังลอดออกมานอกโทรศัพท์ เธอพูดไปก็ตบหน้าขาไปด้วย “ฮ่าฮ่าฮ่า ฉลาดจริงๆ พระเจ้าช่วย นี่มันยอดเยี่ยมมาก”

อวี๋ซือซือไม่กล้าพูดให้ชัดเจน เพราะว่าข้างกายยังคงมี “สายลับ” อยู่ แต่พอนึกถึงหน้าตาอันบูดเบี้ยวของฉูเจ๋อหยาง เธอก็รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

ไอ้หยา น่าหัวเราะเสียจริง ถ้าหากว่าฉูเจ๋อหยางรู้ว่าถูกลูกชายที่รักของตัวเองเล่นงานเข้าล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไง

คงจะไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่

“อ้อ ไม่ต้องพูดถึงแล้ว เกือบทำเอาฉันหัวใจวาย เธอรีบนอนเถอะ ไม่คุยแล้ว ฉันสั่งเดลิเวอรี่มาแล้ว”

เป้ยฉ่ายเวยแค่อยากจะถามว่าอวี๋ซือซือรู้เรื่องที่ฉูเจ๋อหยางมารึเปล่า ดูแล้วฉูเจ๋อหยางเหมือนจะตั้งใจมาที่นี่ หวังว่านี่จะเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น

อวี๋ซือซือนึกขึ้นได้ถึงเรื่องบางอย่าง “งั้นก็ได้ พวกเธอไปหาอะไรทานปลอบขวัญก่อนเถอะ”

เธอต้องคิดบัญชีกับใครสักคน

พอวางสาย อวี๋ซือซือก็วางโทรศัพท์ลง สองนิ้วของเธอจิ้มไปที่เอวของใครบางคน จากนั้นก็ถามอย่างดุดัน “พูด คุณบอกความลับไปใช่หรือไม่”

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ ฝันร้ายรึเปล่า ไม่ต้องกลัวนะ” ถังฉีตงแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจพร้อมกับยื่นมือออกไปโอบเธอไว้ จากนั้นก็ลูบหลังเธอเป็นการปลอบโยน

“....” ผู้หญิงนี่น่ากลัวจริงๆ ตอนนี้อ่อนลงบ้างแล้ว

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้บอกที่อยู่ของเวยเวยกับถังฉีตง เขาไม่น่าจะรู้อะไรหรอก ช่างเถอะถือว่าเชื่อเขาสักครั้งก็แล้วกัน

ถังฉีตงรอดตัวไปได้อย่างน่าประหลาดใจ

อีกทางหนึ่งเป้ยฉ่ายเวยก็รับเดลิเวอรี่มา คอยดูแลรุ่ยรุ่ยให้ทานจนหมด ทั้งสองคนเล่นหมากโกะด้วยกันในห้องนอน

ตอนกลางคืน อยู่ๆโรงพยาบาลก็โทรตามให้เป้ยฉ่ายเวยแวะไป เธอได้แต่กำชับรุ่ยรุ่ยให้อยู่บ้านด้วยความอุ่นใจ ถ้ามีเรื่องอะไรให้โทรหาเธอ

เมื่อตอนขากลับยางรถยนต์ดันแตก คนขับเอายางไปซ่อมยังไม่กลับมา เป้ยฉ่ายเวยได้แต่เดินแถวนั้นไกลๆ เดินจนถึงบริเวณถนนเพื่อโบกรถ

เธอยังสงสัยว่าทำไมดึกขนาดนี้โรงพยาบาลถึงได้โทรให้ไปหาใช่เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า ขณะที่ไม่ทันสังเกตก็เห็นรถเบนท์ลีย์ค่อยๆจอดลงข้างๆเธอ

จนกระทั่งเธอเห็นว่ารถเบนท์ลีย์คันหนึ่งกำลังขับเข้าใกล้เธอและกำลังมุ่งหน้ามายังตำแหน่งที่เธอยืนอยู่ เธอถึงได้สังเกตว่ารถเบนท์ลีย์คันนั้นขับด้วยความเร็วเหมือนหอยทาก เคลื่อนไหวทีละน้อยทีละน้อย

ปฏิกิริยาแรกของเป้ยฉ่ายเวยก็คือ คิดแล้วคิดอีกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ คนร้ายที่ไหนจะขับรถดีขนาดนี้ น่าจะเป็นลูกน้องของคนรวยล่ะมั๊ง

ทันใดนั้นอยู่ๆเธอก็นึกถึงใครบางคน สีหน้าเป้ยฉ่ายเวยตึงเครียดขึ้นทันที เธอได้แต่พยายามสะกดความตื่นตระหนกเอาไว้ เธอก้มหน้าและเดินต่อไปอย่างรวดเร็ว เธอเร่งความเร็ว รถทางด้านข้างก็เร่งความเร็วด้วย

เมื่อเดินถึงข้างหลังเป้ยฉ่ายเวยก็ทนอีกไม่ไหว เธอเริ่มออกวิ่ง เธอไม่คุ้นเคยกับตรอกซอกซอยที่นี่ได้แต่วิ่งไปยังที่ที่มีผู้คนเพื่อหาที่หลบซ่อน ราวกับกำลังหนีชายผู้ชั่วร้าย

แต่ว่าครั้งนี้เธอไม่ได้โชคดีเหมือนเมื่อตอนบ่าย ชายในรถดูเหมือนว่าจะได้บนเรียนจากความคิดของเธอแล้ว

เขาขับรถเบนท์ลีย์ปาดขวางหน้าเป้ยฉ่ายเวยและเปิดประตูรถออกทันที ดวงตาสีดำขลับทำให้คนหายใจไม่ออกจ้องราวกับเหยี่ยวที่บินโฉบจากบนท้องฟ้า ชายคนนั้นสกัดกั้นเธอให้อยู่กับที่ “ว่าไง ไม่หนีแล้วหรอ”

เป้ยฉ่ายเหนื่อยหอบ สองมือเผลอกำชายเสื้อแน่นและถอยห่างออกไป “ฉูเจ๋อหยางคุณพยายามตามหาฉันทำไม”

ฉูเจ๋อหยางขยับมุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ทำให้ทุกผู้คนต้องหลงใหล นัยน์ตาเปล่งประกายด้วยความเยือกเย็น การแสดงออกนี้ล้วนอยู่ในสายตาเป้ยฉ่ายเวย หัวใจเธอเต้นตึกตักอยู่หลายวินาที

“เป้ยฉ่ายเวย เรื่องโง่ที่สุดของเธอก็คือการหนีตามผู้ชาย”

“ว่าไงนะ” เธอหนีตามผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่เป้ยฉ่ายเวยเห็นฉูเจ๋อหยางโผล่ออกมาจากรถ บริเวณรอบๆไม่มีคนอยู่ เธอคิดว่าจะวิ่งหนีให้เร็วที่สุด แต่ทำไมกลับวิ่งไม่ออก

เธอเห็นผู้ชายคนนั้นเดินดุ่มๆเข้ามา ร่างสูงใหญ่นั้นจ้องหน้าผากของเธอ เหมือนภูเขาที่มองไม่เห็นกำลังกดทับลงบนหัวใจของเธอ

"กลัวหรอ" ฉูเจ๋อหยางหยุดยืนอยู่ห่างจากเป้ยฉ่ายเวยประมาณครึ่งเมตร สายตายังคงมืดมนและเยือกเย็น แต่ว่ายังคงสงบนิ่ง

เป้ยฉ่ายเวยเห็นคลื่นลมฝนที่อยู่ในดวงตาเขา นั่นเป็นเขตหวงห้ามและอันตรายจนเธอไม่กล้าแตะต้อง เธอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว และจู่ๆก็รู้สึกปากแห้งขึ้นมา จึงอดไม่ได้ที่จะแลบลิ้นเลียริมฝีปาก

ชายคนนั้นไม่ทันได้สังเกตว่าสายตาเขาทำให้เกิดปฏิกิริยาต่างๆเหล่านี้ต่อเธอ

“ฉูเจ๋อหยาง ฉันรู้ว่าคุณโมโห แต่ฉันคิดว่าเรื่องนั้นเราไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงอีกต่อไป ท้ายที่สุดแล้วคุณเองก็ไม่ต้องการที่จะทนทุกข์ใช่หรือไม่”

เป้ยฉ่ายเวยคิดว่าฉูเจ๋อหยางจะยังพูดถึงเรื่องวันนั้น เรื่องที่เธอถูกวางยาและ “บังคับ” เขา ท้ายที่สุดแล้วความใจแคบและความต้องการที่จะแก้แค้นของชายหนุ่มนั้นแข็งแกร่งเพียงใด ทำไมเธอจะไม่รู้

แต่ว่าเรื่อง “คืนเดียว” จะต้องตามเธอมาถึงต่างประเทศ มันไม่เว่อร์ไปหน่อยหรอ

ฉูเจ๋อหยางเห็นเป้ยฉ่ายเวยทำท่าทำทางระแวดระวัง เขาอดไม่ได้ที่จะบีบรัดผู้หญิงตรงหน้า นอกจากเธอแล้วก็ไม่มีใครทำให้เขาโมโหจนแทบเป็นบ้าได้ “คุณก็รู้ว่าผมโมโห”“ใช่ ใช่ค่ะ แต่เราก็พบกันแล้ว ฉันขอโทษ” เป้ยฉ่ายเวยอยากหลีกเลี่ยงความขัดแย้งจึงแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจที่เขาพูดฉูเจ๋อหยางก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เป้ยฉ่ายเวยถอยร่นด้วยความหวาดกลัว ในที่สุดก็ไปติดกับต้นไม้ต้นหนึ่ง เธอประหม่าจนแทบพูดไม่ออกใจที่หดหู่ก็กลับมามีสีเลือดอีกครั้ง เลือดสูบฉีดอย่างรวดเร็วเป้ยฉ่ายเวยไม่อาจไม่ยอมรับ ลึกๆแล้วหัวใจเธอก็ยังมีความหวัง หวังว่าฉูเจ๋อหยางจะไม่ปล่อยเธอไป ไม่ว่าไกลแค่ไหนก็จะมาตามหาเธอแต่ว่า ชีวิตเมื่อคุณไม่รู้จักตัวเองดีพอ มันจะทิ้งบทเรียนอันลึกซึ้งไว้ให้เสมอเธอได้ยินผู้ชายสูงใหญ่ตรงหน้ากำลังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอ หัวใจเธอ ทั้งเจ็บปวดทั้งเหน็บหนาวที่ต้องยอมรับความจริงข้อนี้ความคาดหวังของเธอมันช่างน่าขันและไร้สาระ“เธอทำสำเร็จแล้ว เป้ยฉ่ายเวยความสกปรกของคุณทำให้ผมสะอิดสะเอียน”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์