โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่301 เกมการต่อรอง​

บทที่301 เกมการต่อรอง​

ชายผอมโซที่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจยะเยือก โลกนี้ยังมีคนไม่กลัวตายอยู่อีก ผู้หญิงชื่อเป้ยฉ่ายเวยคนนี้มีจิตวิญญาณ​เช่นไร​ ทำไมถึงไม่กริ่งเกรงเจ้านายของเขา และยังกล้าขึ้นเสียงกับเขาอีก

ไม่รู้ว่าเธอโง่จริง หรือว่าซื่อบื้อกันแน่

เป้ยฉ่ายเวยเหลือบมองชายข้างๆอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก เธอรู้ว่าเขาต้องกำลังคิดว่าทำไมเธอถึงกล้าขัดเสิ่นลั่งอยู่ ไม่ใช่ว่าเธอกล้าหาญอะไร เพียงแต่เธอรู้ว่าเสิ่นลั่งไม่กล้าทำอะไรเธอ

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่กล้า

“คุณเป้ยผมหวังจริงๆว่าคุณจะขึ้นรถมาก่อนดีกว่า” ความหมายของเสิ่นลั่งนั้นชัดเจน ถ้าหากว่าเป้ยฉ่ายเวยไม่ขึ้นรถ เขาก็จะไม่เสียเวลาอีก บรรดาคนเหล่านั้นที่เบื้องหลังกำลังรอรับคำสั่งอยู่

เป้ยฉ่ายเวยฉุนมาก รถของเสิ่นลั่งปิดทางข้างหน้าอยู่ ชายผอมโซก็ขวางอยู่ทางด้านหลัง เธอมองไปยังอากาศร้อนที่กำลังแผดเผารถ จึงเห็นว่าในรถคันนั้น มีหญิงสาวกำลังอุ้มทารกตัวน้อยอยู่ และหล่อนกำลังรอคอยพวกเขาอย่างใจจดใจจ่อ

เธออาจจะไม่สนไม่แคร์ใครหน้าไหน แต่ว่ากลับเป็นห่วงเด็กน้อยคนนั้น จึงไม่อาจใจดำปล่อยให้คนต้องรอ

เสิ่นลั่งนั้นเจ้าอุบายจริงๆ

เป้ยฉ่ายเวยเหยียดมือออก พร้อมพูดอย่างเมินเฉย “ไม่แก้เน็คไทนี่ แล้วฉันจะขึ้นรถไปยังไง”

ชายร่างผอมนั้นไม่คิดว่าเป้ยฉ่ายเวยจะเถรตรงเช่นนี้ ทันใดนั้นเขาจึงหันไปถามเสิ่นลั่งซึ่งอยู่ด้านใน แต่กลับถูกเป้ยฉ่ายเวยขวางไว้ครึ่งทางพร้อมกับพูดเหน็บแนม “ว่าไง แก้มัดเน็คไท ยังต้องขออนุญาตคุณเสิ่นด้วยรึ”

“ไม่ได้ยินที่คุณเป้ยพูดรึไง” เสียงดุเล็กน้อยของเสิ่นลั่งแว่วออกมา

ชายร่างผอมตกกะใจ ไม่กล้าเงอะงะอีก เขารีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อแก้เน็คไทให้กับเป้ยฉ่ายเวย

เมื่อมือถูกแก้มัด เป้ยฉ่ายเวยก็สะบัดข้อมืออยู่สักพัก ก่อนจะก้มตัวเพื่อเข้าไปในรถ

“คุณเป้ย จะให้ทำอย่างไรกับเน็คไทของคุณ”

ชายร่างผอมยังคงถือเน็คไทของฉูเจ๋อหยางอยู่ในมือ ที่จริงแล้วเน็คไทเส้นหนึ่งจะโยนทิ้งก็โยนไป แต่จากการที่มือเขาได้สัมผัสแล้ว เน็คไทเส้นนี้น่าจะแพงไม่น้อย แถมด้านบนยังมีเข็มกลัดอัญมณีอีก เขาจึงไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับมัน

เป้ยฉ่ายเวยนิ่งไปครู่หนึ่ง เสียงอันจืดชืดทำให้คนฟังแล้วไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของเธอ “ถ้าคุณชอบก็เก็บไว้ ไม่ชอบก็ทิ้งไป”

แน่นอนว่าชายร่างผอมไม่กล้าเก็บเอาไว้หรอก เขายังอยากมีชีวิตยืนยาวอยู่ จึงตัดสินใจโยนเน็คไทมีมูลค่าเส้นนั้นลงจากสะพานยกระดับ เพียงแต่เสียดายเข็มกลัดอัญมณีอันนั้น

เขาแอบคิดว่าจะเก็บเอาไว้ดีหรือไม่ แต่เขารู้ว่าถ้าเก็บไว้แล้วเกิดถูกจับได้ขึ้นมา จะซวยแค่ไหน

ประตูรถปิดลงช้าๆ ภายในห้องโดยสารเผยให้เห็นถึงรสนิยมอันเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่ม มันดูไม่เลว แต่ว่าเธอกลับไม่ค่อยคุ้นชิน

ท่ามกลางความมืด เธอรู้สึกได้ถึงชายหนุ่มที่นั่งติดกับเธอ เพียงแต่เธอมองเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของเขาได้ไม่ชัดนัก

รถเคลื่อนตัวไปช้าๆ คนที่ด้านหลังก็ไม่กล้าแซง ขับตามกันไปอย่างสงบเงียบ นี่คือพลังของการมีอำนาจ

เป้ยฉ่ายเวยมองผ่านกระจกสีดำ เธอเห็นได้ชัดว่าเน็คไทเส้นนั้นล่องลอยไปตามลม ค่อยๆหายไปจากสายตาเธอ เหมือนกับหัวใจของเธอซึ่งค่อยๆดิ่งหายลับไปในหุบเขา

“งานอดิเรกของคุณเป้ยช่างต่างกับคนทั่วไปมาก” เมื่อเสิ่นลั่งเอ่ยถึงตรงนี้ พอดีกับที่มีแมวพเนจรตัวหนึ่งเดินอย่างน่าสงสารอยู่ตรงหน้า ราวกับว่าอยากจะช่วยเธอด้วยความหวังดี

ไม่คาดคิดมันใช้กรงเล็บปีนขึ้นมา เตรียมพร้อมที่จะกระโดด น่าสนใจมาก

ฉูเจ๋อหยางชอบเล่นโหดๆ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะชอบอะไรที่มันน่าตื่นเต้น

สายตาเป้ยฉ่ายเวยตกตะลึง แต่ก็กลับมาเป็นปกติในไม่ช้า เธอรู้ว่าคำพูดเสิ่นลั่งมีความนัย เขาคงไม่ได้แค่พูดถึงเน็คไทเส้นนั้นหรอก แต่ว่านั่นมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย

“จะไปสู้คุณเสิ่นได้ที่ไหน ชอบทานยา ร่างกายไม่แข็งแรงก็เพลาๆลงหน่อยเถอะ” เป้ยฉ่ายเวยตอกกลับอย่างไม่เกรงใจ

รถไถลลื่น อีกนิดหนึ่งเกือบจะหลุดไปข้างทาง ชายคนขับรถเหงื่อแตกด้วยความตกใจ เขาเหลือบมองกระจกหลังไปยังที่นั่งผู้โดยสารด้านหลัง “คุณเสิ่น ขออภัย ผมประมาทเองไม่ทันระวัง”

เขาเห็นว่าเสิ่นลั่งนิ่งเงียบอยู่นานไม่พูดไม่จา เขาจึงแอบพ่นลมออกจากปากด้วยความโล่งอก

ใจหายหมด เขาคิดว่าไปว่าครั้งนี้เขาตายแน่

เสิ่นลั่งไม่กลัว เธอก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว จะพูดอย่างไรดีชีวิตของเสิ่นลั่งมีเงินมากมายกว่าเขามาก แต่ว่าแค่รถไถลลื่น ก็ทำเอาคนขับตกอกตกใจเช่นนี้ คาดว่าปกติเขาคงจะทำเรื่องแย่ๆไว้ไม่น้อย

“คุณกำลังด่าผมในใจรึ” เสิ่นลั่งหันมาถาม

เป้ยฉ่ายเวยกลั้นหายใจ ไม่รู้ว่าขณะที่ไม่มีแสงไฟ เสิ่นลั่งเห็นการแสดงออกทางสีหน้าเธอได้อย่างไร หรือว่าคนข้างๆนั้นอ่านใจได้ เธอไม่อยากจะพัวพันกับเขาให้มากเกินไป

“คุณเสิ่นล้อเล่นแล้ว รบกวนจอดรถตรงทางออกด้วย”

เสิ่นลั่งนั่งเอนหลังไป เป้ยฉ่ายเวยได้ยินเสียงเสียดสีของเบาะอย่างชัดเจน ร่างของเธอเผลอเกร็งขึ้น เธอไม่กล้าเหลือบมองชายข้างๆ

“คุณเป้ย น่าสนใจมาก น่าสนใจกว่าผู้หญิงหลายๆคนที่ผมเคยพบมา”

“โอ้” แน่นอนล่ะ อยากจะบอกอะไรเธอล่ะ เธอเหมือนกับ “หญิงสาว” ในนิยายอย่างนั้นหรอ คิดว่าจะเรียกร้องความสนใจจากฉันได้สำเร็จล่ะสิ

เสิ่นลั่งรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างกับอาการนิ่งเฉยของเป้ยฉ่ายเวย น้อยนักที่จะมีหญิงสาวทำเฉยเมยใส่เขา “คุณเป้ย ผมว่าเรามาเล่นเกมส์กันดีกว่า”

เกมส์ใครแพ้ คนนั้นตาย

“ขอโทษนะ ฉันเล่นเกมส์ของพวกคุณไม่ได้หรอก” เป้ยฉ่ายเวยตอบตรงไปตรงมา เธอถูกฉูเจ๋อหยางลักตัวออกมานานแล้ว แล้วยังเดินอยู่บนสะพานยกระดับอีกเป็นเวลานาน รุ่ยรุ่ยอยู่บ้านคนเดียวน่าจะกำลังหัวเสียแล้วล่ะ

เสิ่นลั่งยิ่งรู้สึกว่าเป้ยฉ่ายเวยผู้หญิงคนนี้เดาทางไม่ค่อยได้ เห็นๆอยู่ว่าไม่ได้เกิดในครอบครัวสูงส่งอะไรแต่กลับหยิ่งทะนงตน เขาสนใจอยากจะกระชากเธอลงมา อยากเห็นเวลาเธอร้องขอความเมตตา อยากรู้ว่าจะน่าสมเพศเหมือนคนอื่นๆไหม

เขายกมือขึ้นสัมผัสที่นั่งข้างๆเขา โคมไฟเหนือศีรษะส่องสว่างขึ้น เพียงพอที่จะทำให้เขาเห็นท่าทีของเป้ยฉ่ายเวยได้ชัดเจน

นอกจากเฉยเมยแล้วก็ไม่มีท่าทีอื่นใดอีก “ถ้าหาก ผมจะบอกว่ายังไงคุณก็ต้องเล่นล่ะ” “จำเป็นด้วยหรอ” เป้ยฉ่ายเวยหันไปจ้องเขาอย่างสงบนิ่ง จึงเห็นเขาพยักหน้าเบาๆ เธอตอบเขาอย่างไม่ใยดี “นับคะแนนให้ยุติธรรม ฉันไม่ชอบรู้สึกว่าถูกโกง”เสิ่นลั่งอึ้งไปครู่หนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงอยากเล่นเกมส์กับเขาอย่างยุติธรรม เป้ยฉ่ายไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นจริงๆ ไม่ว่าจะด้วยทัศนคติอันเฉยเมย หรือความรวดเร็วในการโอนอ่อนผ่อนตาม เธอช่างเป็นผู้หญิงที่อยู่เป็นในเมื่อขัดขืนไม่ได้ ก็ตอบโต้อย่างเป็นประโยชน์รถจอดลง เสิ่นลั่งเอ่ยเบาๆ “คุณเป้ย ถึงแล้ว”ครั้งนี้ทำเอาเป้ยฉ่ายเวยนิ่งอึ้งไป เธอคิดว่าเสิ่นลั่งไม่มีทางที่จะปล่อยเธอไปง่ายๆ เธอยังคิดหาวิธีกำจัดเขาอยู่เลย ไม่คิดว่าอยู่ๆรถจะจอดที่ข้างทางเธอประหลาดใจอยู่เป็นเวลาสั้นๆ ก่อนที่เป้ยฉ่ายเวยจะพยักหน้าให้เสิ่นลั่งและเปิดประตูลงจากรถไปชั่วขณะที่เป้ยฉ่ายเวยกำลังปิดประตู เสิ่นลั่งก็เปล่งเสียงแว่วออกมา “คุณเป้ย คุณจำคำที่คุณพูดเอาไว้”เป้ยฉ่ายเวยมองดูรถหายลับไปก่อนที่เธอจะพูดอะไรบางอย่างออกมา “แปลกประหลาดยากจะเข้าใจ”บ้ากันไปหมดแล้ว

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์