โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่313 อย่าไปจากผม

บทที่313 อย่าไปจากผม

อยู่ๆฉูเจ๋อหยางก็ปล่อยเป้ยฉ่ายเวย เขาจับเธอพลิกหันไป ด้านหลังเธอคือร่างอันสูงใหญ่ เสียงเขาทุ้มต่ำลงเหมือนกับลมกลางหน้าผา “เป้ยฉ่ายเวย คุณจะต้องกลับมาขอร้องผม”

เขารับรองได้

เป้ยฉ่ายเวยหัวใจสั่นไหว ความหวาดกลัวค่อยๆแผ่ซ่านออกจากใจ เหมือนน้ำที่กำลังเดือดปุด ไม่ว่าฉูเจ๋อหยางจะพูดยังไง เธอก็จำต้องไป

แม้ว่าใจจะลนลานแทบแย่ แต่เป้ยฉ่ายเวยก็ยังคงยืนนิ่ง ก่อนที่จะเดินไปที่ประตูทางออก

กระทั่งมีเสียงดังแว่วมาจากประตูใหญ่ เป้ยฉ่ายเวยไม่ได้เหลียวกลับไปมอง

วินาทีถัดมาแก้วที่วางคู่กันบนโต๊ะก็ถูกปัดตกลงสู่พื้น แตกออกเป็นเสี่ยงๆ หนึ่งแก้วในนั้นก่อนนี้ก็มีรอยร้าวอยู่แล้ว ตอนที่พวกเขาย้ายเข้ามาอยู่ช่วงแรกๆ เป็นแก้วมีหูซึ่งเป้ยฉ่ายเวยซื้อกลับมาจากตลาดขายของเก่า

โชคดีที่แก้วนั้นมีเป็นคู่ มีอยู่ครั้งหนึ่งเป้ยฉ่ายเวยทำความสะอาดแล้วไม่ทันระวังจึงทำตกจนเกิดเป็นรอยบิ่น เธอถึงขนาดแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ

ต่อมายังตั้งใจไปเสาะแสวงหาคนมาซ่อม เขายังจำรอยยิ้มบนใบหน้าเป้ยฉ่ายเวยที่เขาชอบได้ ถึงตอนนี้ เธอระมัดระวังมันมาก แก้วนั้นไม่ได้เอาออกมาใช้อีกเลย

ไม่คิดว่าหลังจากที่เธอไปแล้ว เขากลับจับพลัดจับผลูเอาแก้วออกมาใช้เฉยเลย

ที่เขาทำราวกับเป็นการประชดประชัน

เป้ยฉ่ายเวยยังเดินออกไปได้ไม่ถึงสองก้าว เธอก็ได้ยินเสียงอันยุ่งเหยิงดังแว่วมา เธอหยุดนิ่งอยู่หลายวินาทีก่อนที่จะเดินจากไป

เธอไม่รู้ว่ามีกี่คนที่กำลังเป็นห่วงเธออยู่ จะทำเป็นไม่สนใจผลที่ตามมาไม่ได้

ถนนมืดสลัว เหลือเพียงโคมไฟส่องถนนไม่กี่ดวงเท่านั้น ไม่รู้ว่าฤดูร้อนสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ สายลมยามค่ำคืนนั้นพัดพาเอาความหนาวเย็นมาด้วย เป้ยฉ่ายเวยหดตัวลง หาร้านสะดวกซื้อเพื่อโทรหาอวี๋ซือซือ

“ซือซือ ฉัน…”

เธอยังทันได้เอ่ยปากพูด อวี๋ซือซืออีกทางด้านหนึ่งของโทรศัพท์ก็โพล่งพูดเรื่องต่างๆออกมามากมาย “เวยเวย เธออยู่ไหน ทำบ้าอะไร เธอรู้รึเปล่าว่าพวกเราเป็นห่วงกันจนแทบบ้า ถ้ายังหาเธอไม่เจอ หลี่จื่อเชียนคงได้พลิกแผ่นดินแน่”

“ขอโทษที่ทำให้พวกเธอเป็นห่วง” เป้ยฉ่ายเวยหยุดชั่วครู่ สะกดกลั้นความขุ่นเคืองใจไว้ พร้อมกับฝืนพูดออกมาเบาๆ “ฉัน ไม่เป็นไร”

“ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดอะไรมากเลย เธออยู่ที่ไหน ฉันจะรีบไปหา” ในโทรศัพท์คุยกันไม่ค่อยชัด เดี๋ยวคลาดเคลื่อน อวี๋ซือซือแทบอยากจะพุ่งตัวไปหาคนที่ปลายสาย

เป้ยฉ่ายเวยกำโทรศัพท์ เธอมองหาจุดสังเกตรอบๆ แต่ก็เห็นแต่ความมืดมิด “ฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันอยู่ไหน”

“....” อวี๋ซือซือสูดหายใจเข้าลึก ระงับแรงขับที่อยากจะคำรามออกไป “ถามสิ”

เป้ยฉ่ายเวยถูกฉูเจ๋อหยางทำเอาสมองหายไปแล้ว นั่นถึงทำให้ได้มีสติ และหันไปถามเจ้าของร้านสะดวกซื้อ เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองเดินมาไกลเหมือนกัน เธอรีบบอกที่อยู่เพื่อนของเธอไป

“ซือซือ จื่อเชียนอยู่กับเธอรึเปล่า”

“เปล่า เธอรอพวกเราอยู่ที่นั่น ฉันจะรีบไป ฉันจะบอกเขาให้” อวี๋ซือซือรู้ว่าเป้ยฉ่ายเวยกำลังคิดอะไรอยู่ จึงถอนใจออกมาอีกครั้งก่อนจะพูด “เวยเวย เขาเป็นห่วงเธอมากนะ”

ขนาดคนคนใจแข็งเป็นหินก็ยังอดเห็นใจไม่ได้

เป้ยฉ่ายเวยเผลอกำโทรศัพท์แน่น เธอตอบรับเสียงอ่อย “อื้อ”

“โอเค เธอรออยู่ที่นั่นอย่าเดินไปไหนล่ะ อีกครึ่งชั่วโมงเราก็น่าจะถึง” อวี๋ซือซือพูดจบก็วางสาย เธอโทรหาหลี่จื่อเชียน แค่พอเธอบอกที่อยู่ไป จากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรในสายอีกเลย

การวางสายนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก

คนที่ไปถึงเร็วที่สุดไม่ใช่อวี๋ซือซือ เป้ยฉ่ายเวยมองชายสูงสง่าตรงหน้า เขาสางผมเผ้าอันยุ่งเหยิง มีเหงื่อไหลทะลักออกตามหน้าผากของเขา หน้าอกสั่นขึ้นลง ดูออกว่าเขาร้อนใจจึงรีบมา

“จื่อเชียน…”

นัยน์ตาของหลี่จื่อเชียนมองตรงไปยังเป้ยฉ่ายเวย เขาสาวเท้าก้าวเข้าหาเธอ เริ่มต้นจากช้าๆไปจนกระทั่งเร่งเร็วขึ้น เขาอดใจไม่ไหว ไม่พูดไม่จาอะไรทั้งสิ้น เขาเอื้อมมือออกไปโอบเธอมากอดไว้ ถ้าหากว่าไม่ได้พยายามควบคุมแรงไว้ล่ะก็

เขากลัวว่าจะออกแรงหนักไปจนทำเธอเจ็บเข้า

เป้ยฉ่ายว่ายเวยรู้สึกได้ว่าแขนหลี่จื่อเชียนสั่น ลมหายใจของเขาก็เหนื่อยหอบ ท่าทีทุกอย่างล้วนแสดงให้เห็นว่าเขาตื่นเต้นมากแค่ไหน

“จื่อเชียน….ขอโทษ…”

“ไม่ เวยเวย อย่าพูดคำพวกนี้กับผมเด็ดขาด” เขารับไม่ได้ ทุกครั้งที่ได้ยินเธอพูดว่าขอโทษ หัวใจเขาเหมือนถูกเฉือนด้วยมีด

หลี่จื่อเชียนสงบจิตสงบใจอยู่สักครู่ ก่อนที่เขาจะปล่อยมือ สายตาเขามองสำรวจเป้ยฉ่ายเวยหัวจรดเท้าด้วยความเป็นห่วง ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่ามือขวาเธอท้าวอยู่ทางด้านหลังตลอด เขาจึงกลั้นหายใจ “คุณได้รับบาดเจ็บหรอ”

“เปล่า แค่เจ็บนิดหน่อย” เป้ยฉ่ายเวยหลบสายตา มือขวาเธอก็กระชับติดกับเสื้อผ้าด้านหลัง

หลี่จื่อเชียนยื่นมือไปดึงมือขวาของเธอออกมา เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่ยอมให้เขาดู ปากก็ยังคงแสร้งบอกว่าไม่เป็นไร “ที่จริงก็ไม่เป็นไร แค่เจ็บนิดหน่อย หมอทำแตกตื่นเกินไป”

เธอไม่รู้ว่าหลี่จื่อเชียนรู้เรื่องเธอถูกซุ่มทำร้ายแล้ว และยังรู้อีกว่าคนที่ปกป้องเธอไว้คือฉูเจ๋อหยาง

“ที่จริงแล้วฉันอยากจะโทรหาพวกคุณ ฉันซุ่มซ่าม ไม่รู้ไปทำโทรศัพท์ตกหายที่ไหน”

หลี่จื่อเชียนจ้องเขม็งไปที่การหลบตาของเป้ยฉ่ายเวย ราวกับจะมองจ้องลึกเข้าไปถึงก้นบึ้งหัวใจเธอ เขาไปดูให้เห็นความคิดที่แท้จริงของเธอ เป็นเพราะไม่อยากให้เขาเป็นห่วง หรือว่าเพราะต้องการปกปิดเรื่องของผู้ชายคนอื่น

“จื่อเชียน เป็นอะไร” เป้ยฉ่ายเวยทนเห็นหลี่จื่อเชียนเหม่อลอยไม่ไหวหลี่จื่อเชียนหยุดนิ่ง เขาดึงสายตากลับมา จากนั้นสายตาก็กลับไปอบอุ่นเช่นเดิมเหมือนเช่นวันปกติ “ไม่มีอะไร คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เพราะผมดูแลคุณไม่ดีเอง” ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ปล่อยเธอทิ้งไว้ เธอก็คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ ก็คงไม่ถูกฉูเจ๋อหยางช่วยหนีไป เขาไม่โทษใคร ต้องโทษตัวเอง“จื่อเชียนเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ เป็นเพราะฉันไม่ระมัดระวังเอง…” เป้ยฉ่ายเวยยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกผิด เห็นอยู่แล้วว่าเธอไม่ได้เล่าอะไรเลย แต่ทำไมกลับรู้สึกว่าจื่อเชียนรู้หมดแล้วทุกเรื่องเขาไม่น่าจะรู้เรื่องว่านต้าเผิงหรอกเนอะ….หลี่จื่อเชียนมองเป้ยฉ่ายเวยอย่างเป็นกังวล เขาพยายามฝืนยิ้มให้ และยกมือขึ้นสัมผัสศีรษะเธออย่างอ่อนโยน ความอบอุ่นที่ไม่ต้องพูดอะไรออกมา “อื้อ ผมรู้ คราวหน้าห้ามอยู่ห่างจากผมอีก”เพราะว่าเขากลัวแล้ว กลัวว่าเวลาแค่ชั่วครู่ ก็อาจทำให้เธอหลุดหายไปจากข้างกายเขาได้เป้ยฉ่ายเวยอยากจะรับปากหลี่จื่อเชียน แต่ว่าคำพูดพอมาถึงปลายลิ้น ไม่ว่าเธอจะพยายามหนักแค่ไหน คำพูดนั้นก็ไม่สามารถออกมาได้ จนกระทั่งถึงชั่วขณะที่เธอไม่รู้จะทำตัวเช่นไรเสียงอวี๋ซือซือช่วยเธอไว้ได้ทันท่วงที “เวยเวย ที่แท้เธอก็อยู่นี่เอง ทำฉันตกใจแทบแย่ ฉันคิดว่าเธอโดนได้สวะนั่นรังแกเอาเสียแล้ว ว่าแต่เธอมาที่นี่ได้ยังไง”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์