โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่315 เขาทำอย่างไร

บทที่315 เขาทำอย่างไร

ว่านต้าเผิงได้ยินเสียงคนโต้เถียงกันโกลาหลไม่จบสิ้น เขายังคิดว่าตัวเองอยู่ที่บ้าน นึกอยากจะออกปากด่าคน แต่เมื่อลืมตาขึ้นมา ก็เห็นสายตานับร้อยมุมดูตนเองอยู่

สายตายังโดนแสงแฟลตไปหลายต่อหลายครั้ง เมื่อชะโงกหัวลงไปถึงได้เห็นว่าตัวเองถูกแขวนเท้งเต้งอยู่บนเสา มีแผ่นไม้แผ่นหนึ่งห้องต่องแต่งอยู่บนร่างกาย ขณะที่เขากำลังตื่นเต้นตกใจอยู่นั้น เสียงอื้ออึงโกลาหลก็หายวับไป

ว่านต้าเผิงทนไม่ไหวแผดเสียงคำราม “มานี่ มานี่หน่อย ช่วยผมลงไปด้วย ช่วยผมลงไปที!”

ผู้สื่อข่าวที่นั่นเมื่อได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเขา พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะจดจ่อถ่ายไปที่จุดยุทธศาสตร์ตรงนั้น

เมื่อเป้ยฉ่ายเวยลืมตาขึ้นก็เห็นดวงตากลมโตเหมือนลูกองุ่นกำลังจ้องเขม็งมาที่เธอ นั่นทำให้เธอตื่นขึ้นมา ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอันเปี่ยมไปด้วยความสุข

“แม่ครับ ในที่สุดแม่ก็ตื่นแล้ว”

เป้ยฉ่ายเวยสัมผัสแก้มของเจ้าซาลาเปาน้อยแล้วพูดว่า “อื้อ วันนี้รุ่ยรุ่ยตื่นเช้ามากเลยนะ”

“ไม่ใช่รุ่ยรุ่ยตื่นเช้าหรอกครับ แต่ว่าแม่ตื่นสายมากต่างหาก คุณอาหลี่มาดูหลายรอบแล้ว แต่พอคุณอาหลี่รู้ว่าแม่หลับอยู่ ก็บอกว่าไม่ให้ผมปลุก” รุ่ยรุ่ยใช้มือทั้งสองเท้าคางจ้องมองเป้ยฉ่ายเวย

ตอนที่แม่หลับอยู่เหมือนในทีวีมีเทวดาด้วยครับ

เป้ยฉ่ายเวยคว้าโทรศัพท์มาดูจึงเห็นว่าตอนนี้เที่ยงแล้ว มิน่าล่ะดวงอาทิตย์ถึงได้ใหญ่นัก เธอลุกขึ้นนั่งที่ขอบเตียง ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเธอหลับไปตอนกี่โมง ยังคิดว่าตอนเช้าจะตื่นเช้าสักหน่อย ไม่คิดว่าพอนอนแล้วจะหลับยาวขนาดนี้

“คุณอาหลี่บอกรึเปล่าว่าหาแม่เรื่องอะไร”

รุ่ยรุ่ยแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อยทำท่าครุ่นคิด “เหมือนกับว่าจะพาแม่ไปที่ไหนสักที่”

“แย่แล้ว” เป้ยฉ่ายเวยนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่จะเข้านอนรับปากกับหลี่จื่อเชียนว่าจะไปพบคุณแม่หลี่ เธอจึงรีบร้อนโทรศัพท์

“จื่อเชียน ฉันขอโทษ ฉันตื่นสาย ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน ให้ฉันไปอธิบายให้คุณป้าฟังไหม เป็นความผิดของฉันเอง”

“เวยเวยไม่ต้องห่วง ผมพูดกับคุณแม่แล้ว ไม่เป็นไร คุณพักฟื้นอยู่ที่บ้านแหละ ผมจะออกไปจัดการธุระหน่อย” เมื่อได้รับสายจากเป้ยฉ่ายเวย เสียงของหลี่จื่อเชียนฟังดูพอใจอย่างยิ่ง

เป้ยฉ่ายเวยโล่งใจ “โอเค ไว้คราวหน้าฉันค่อยไปขอโทษคุณป้าด้วยตัวเอง”

“ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย เย็นนี้ไว้กลับไปทานข้าวด้วยกันไหม” หลี่จื่อเชียนถามด้วยความอบอุ่น

“ได้ค่ะ”

ทั้งคู่ว่างสาย เป้ยฉ่ายเวยยังไม่ทันได้รวบรวมสติกลับมา โทรศัพท์มือถือในมือเธอก็สั่นขึ้นอีกครั้ง เธอคิดว่าหลี่จื่อเชียนคงมีอะไรอยากจะพูดและยังไม่ได้พูด จึงรีบรับในทันที

“จื่อเชียน”

“ฉันเองนะ โทรหาเธอตลอดแต่ก็ไม่รับ คุยกับจื่อเชียนอยู่หรอไง” เสียงหัวเราะเหมือนนางฟ้าของอวี๋ซือซือดังทะลุออกมาจากโทรศัพท์

เป้ยฉ่ายเวยพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี “โทรหาฉันมีอะไร”

“ไม่มีอะไรโทรหาเธอไม่ได้หรอ เธอยังไม่ได้เล่าให้ฉันฟังชัดๆเลย ฉันคอยอยู่” เมื่อวานเธอพูดไปแล้ว ว่าวันรุ่งขึ้นจะมาถาม

เป้ยฉ่ายเวยเหลือบมองเจ้าซาลาเปาน้อยน่ารักข้างๆ คำพูดฟังแล้วคลุมเครือ “มีเรื่องอะไรไว้คุยคราวหน้านะ ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนรุ่ยรุ่ยแล้ว”

รุ่ยรุ่ยพยักหน้าเข้าใจในทันที นี่คงเป็นเรื่องที่อยากคุยกับคุณป้าตามลำพัง เขาลุกขึ้นปีนลงจากเตียงอย่างว่าง่าย

“รุ่ยรุ่ยลูกจะไปไหน” เป้ยฉ่ายเวยโยกโทรศัพท์ไปอีกทาง

รุ่ยรุ่ยสวมรองเท้าและพูดว่า “แม่ครับ ผมหิวน้ำจะลงไปดื่มข้างล่าง”

“...” ที่เป้ยฉ่ายเวยพูดนั้นเพื่อต้องการบอกเป้ยฉ่ายเวย ไม่คิดว่าเจ้าตัวน้อยจะฉลาดนัก เขาฟังออกถึงได้ขอตัวไป “ไปเถอะ อีกสักพักเดี๋ยวแม่ตามลงไป”

“ครับ” รุ่ยรุ่ยเดินไปโดยไม่หันกลับมามอง

อวี๋ซือซือที่ในสายได้ยินบทสนทนาระหว่างแม่ลูก เธออดขำไม่ได้ “ฮ่าฮ่าฮ่า เวยเวยตอนนี้เธอไม่มีข้ออ้างอะไรแล้วนะ”

เป้ยฉ่ายเวยถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “โอเค อยากรู้อะไรก็ถามมา”

“หนานฉิงนังบ้านั่นมันไปหาเธอที่ต่างประเทศ ทำไมเธอไม่บอกฉัน เมื่อวานฉันเกือบได้ฆ่าหล่อนแล้ว” อวี๋ซือซือถามอย่างขุ่นเคือง ที่จริงแล้วหนานฉิงไม่ได้พูดอะไร เธอแค่อยากจะแซะเป้ยฉ่ายเวย

เป้ยฉ่ายเวยนิ่งไปหลายวินาที เธอไม่คิดว่าหนานฉิงจะรู้เรื่องเมื่อวาน ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่ฉูเจ๋อหยางช่วยเธอหนีไปหนานฉิงก็ต้องรู้น่ะสิ เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใจเธอก็หนักอึ้ง

เธอคิดว่าเพื่อนรักควรที่จะได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่ต่างประเทศ เธอไม่ได้จะปกปิดอะไร เธอจึงเล่าเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นที่ต่างประเทศให้เธอฟัง

รวมถึงอาการบาดเจ็บของเธอซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่หายดี “เรื่องเป็นอย่างนี้นี่เอง ฉันคิดว่าฉันหมั้นกับจื่อเชียนแล้ว หล่อนจะปล่อยเราสองแม่ลูกไป แต่ว่าฉันก็ยังไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเรื่องเมื่อวานนี้เป็นแผนการของหล่อนรึเปล่า”

ที่ปลายสายนิ่งเงียบไป เป้ยฉ่ายเวยคิดว่าโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ เธอจึงถือขึ้นดู ก็ยังอยู่ในสายนี่ ทำไมถึงไม่มีเสียง

เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ฮัลโหล ฮัลโหล ซือซือ เธอยังอยู่ไหม ได้ยินเสียงฉันรึเปล่า”

“ฉันโมโหจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว!” อวี๋ซือซืออึ้งไป เธอคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำตอบอันน่าตกตะลึงเช่นนี้ ความโกรธประทุขึ้นที่หว่างคิ้วของเธอ “เป้ยฉ่ายเวย เธอไม่เห็นฉันเป็นเพื่อนเธอหรือยังไง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมถึงมาบอกฉันตอนนี้”

“ฉัน ฉัน ฉันคิดว่าเธอรู้แล้ว….” เสียงเป้ยฉ่ายเวยค่อยๆเบาลงเรื่อยๆ ถ้ารู้อย่างนี้เธอคงสารภาพไปตั้งแต่เนิ่นๆ

อวี๋ซือซือโมโหจนกระทืบเท้าใส่พื้นไปหลายที หนำซ้ำยังบี้เท้าไปมาบนพื้นหินอ่อนอย่างแรง “ทำไมเธอไม่บอกวะ ฉันจะไปคิดบัญชีกับนังบ้านั่นเดี๋ยวนี้เลย โลกนี้ยังมีนังงูพิษเช่นนี้อยู่อีกหรอเนี่ย”

ความร้ายกาจของหนานฉิงมันล้ำเส้นเกินไปแล้ว เธอกล้าจ้างนักฆ่าตามไปสังหารคนถึงต่างประเทศ ถ้าไม่ใช่เพราะไหวพริบของเวยเวย เธอนึกภายไม่ออกเลยว่าต่อจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นเพราะอย่างนี้เอง เวยเวยถึงได้ตื่นตระหนกและหวาดกลัว เมื่อคิดเช่นนั้น ไฟโกรธในใจเธอก็ปะทุขึ้นมาไม่ได้การละ เธอจะต้องจัดการกับนังบ้านั่นแทนฟ้าดินเอง“ซือซือเธออย่าตื่นตระหนกไป เรื่องนี้มันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิด” เป้ยฉ่ายเวยได้ยินน้ำเสียงของอวี๋ซือซือ เธอจึงรีบแนะนำ “ตอนนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ชัด อย่าเพิ่งรีบไปหาหล่อน”สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเป้ยฉ่ายเวยไม่อยากให้เพื่อนรักต้องตกอยู่ในอันตราย“ต่อให้ไม่นับรวมเรื่องเมื่อคืนนี้ เรื่องที่มันทำกับเธอและรุ่ยรุ่ย ก็เพียงพอให้ฉันไปจัดการกับมันได้แล้ว” มือที่เท้าสะเอวของอยู่ของอวี๋ซือซือ เปลี่ยนมาเป็นกำหมัดแน่น “แล้วก็ เรื่องนี้ฉูเจ๋อหยางเขารู้รึเปล่า”“ฉัน ฉัน ฉันมัวแต่ยุ่งกับเรื่องของรุ่ยรุ่ย….”เมื่ออวี๋ซือซือได้ยินเสียงอ้ำๆอึ้งๆของเป้ยฉ่ายเวยเธอก็รู้ว่าเธอไม่ได้บอกเขาแน่นอน “ไม่ต้องมาแก้ตัวกับฉัน ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขา หนานฉิงนังอสรพิษนั่นจะไปหาเธอเหรอ รุ่ยรุ่ยเกือบจะ.. ช่างเถอะ พูดเรื่องนี้แล้วฉันของขึ้น”เธอเกือบจะโดนเพื่อนรักฆ่าตายเพราะโมโห“ถ้าเธอไม่บอก ฉันจะไปบอกให้เธอเอง ฉันอยากรู้ว่าฉูเจ๋อหยางเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร!

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์