บทที่ 393 น้องสาวที่นุ่มนิ่ม
ฉูเจ๋อหยางคิดในใจอย่างขมุกขมัว บังอาจมาขัดความสุขเขา เขาก็จะทำให้เจี่ยงเสี่ยวเล่อได้ลองลิ้มรสของ “ความสุข” นั้นบ้าง
เมื่อเจี่ยงเสี่ยวเล่อเห็นแววตาของคนเจ้าเล่ห์ ก็รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างที่เขามองข้ามไป
กว่าเป้ยฉ่ายเวยจะจัดการกับอารมณ์ได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ ตอนที่ให้กำลังใจตัวเองเสร็จแล้วฮึดเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่าเจี่ยงเสี่ยวเล่อไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว
“คุณเจี่ยงไปแล้วหรอ?” เป้ยฉ่ายเวยเอ่ยถามหน้ายังคงแดงอย่างช่วยไม่ได้
ฉูเจ๋อหยางมองมานิ่งๆ ถึงจะรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังเขิน แต่ว่าเขากลับรู้สึกไม่ชอบใจเอาซะเลย ก็เธอกำลังเขินผู้ชายคนอื่นหนิ
เขาส่งเสียงกระแอมไอออกมาแล้วพูดว่า “ไปช่วยรุ่ยรุ่ยเก็บของ”
“อ๋อ” เป้ยฉ่ายเวยส่งเสียงออกมาเบาๆ
หลังจากนั้นก็สังเกตเห็นว่าฉูเจ๋อหยางเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียบร้อย เป็นสไตล์เรียบๆสีดำทั้งตัว เหมือนที่เขาใส่เป็นประจำ
“คุณ....ทายาเสร็จแล้วหรอ?” เป้ยฉ่ายเวยกัดริมฝีปาก เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา
ฉูเจ๋อหยางมองมาทางเธออย่างจะยิ้มก็ไม่ยิ้มซะทีเดียว “ทำไม อยากทาให้ผมต่อหรอ?”
ใบหน้ารูปไข่ของเป้ยฉ่ายเวยแดงแปร๊ดอย่างเขินอายขึ้นมาในทันที
กลอกตาไปมา ราวกับไม่รู้ว่าควรวางสายตาไว้ที่ไหน “ใคร...ใครเขาอยากช่วยคุณต่อเล่า”
ผู้ชายหน้าไม่อาย!
“ฉันจะไปดูรุ่ยรุ่ย......”
“เดี๋ยว!” ฉูเจ๋อหยางเรียกเธอเอาไว้
เป้ยฉ่ายเวยหันหน้าไปหา ถลึงตาใส่เขาอย่างหงุดหงิด สามารถตีความได้ว่า :มีอะไรก็รีบๆพูดมา
นัยน์ตาเรียบนิ่งของฉูเจ๋อหยางปรากฏรอยยิ้มจางๆออกมา บนหน้ามีความเหย้าแหย่ “ไม่กลัวว่าไปแล้วจะถูกเจี่ยงเสี่ยวเล่อล้อเอาหรอ?”
“ฉูเจ๋อหยาง! คุณมันคนบ้า!” เป้ยฉ่ายเวยเดินออกไปทั้งหน้าแดงๆ
เหอะ เธอไม่ได้กลัวว่าจะถูกล้อซะหน่อย ถ้าจะล้อก็ควรล้อคนมีอารมณ์อย่างเขาซะมากกว่า
กลางวันแสกๆแดดยังส่องจ้าขนาดนี้ ยังกล้าล่อลวงเธออีกหรอ?
ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าต้องมีคนมาเห็นแน่ๆ รู้อยู่แก่ใจว่านี่มันห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล
เหมือนมีเจตนาไม่ดี อยากให้เธออับอายขายขี้หน้า
ฉูเจ๋อหยางเป็นคนใจร้ายที่ใจดำ!
เป้ยฉ่ายเวยโกรธขึ้งพร้อมกับก่นด่ากระปอดกระแปด
แต่เมื่อเดินมาถึงห้องของรุ่ยรุ่ย กลับรู้สึกสับสน
เพิ่งจะถูกคนมาเห็นเข้าตอนทำอะไรแบบนั้น ถึงจะไม่ได้ไปไกลถึงขั้นนั้น แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้รู้สึกขายหน้าได้
“อ้าว เวยเวยคุณมาแล้วหรอ?” เจี่ยงเสี่ยวเล่อกำลังผูกมิตรกับรุ่ยรุ่ย โดยการให้รุ่ยรุ่ยเรียกเขาว่าพ่อบุญธรรมอะไรประมาณนั้น
แต่ว่าเจ้าตัวเล็กรุ่ยรุ่ยนี่ก็ช่างเฉลียวฉลาดเหลือเกิน เรียกเขาว่าคุณลุงด้วยคำพูดคำจาที่ดูไม่ค่อยเต็มใจ จนทำให้เจี่ยงรองที่ทำอะไรที่ไหนล้วนราบรื่นมาตลอดเริ่มที่จะสงสัยในเสน่ห์ของตัวเองแล้ว
ไม่ใช่สิ เสน่ห์ของเขาไม่เพียงแค่ฆ่าเพศเดียวกันได้ภายในวิเดียวและเป็นที่ต้องตาต้องใจของเด็กสาวน่ารักทั้งหลาย ทั้งยังสามารถดึงดูดเหล่าเกย์ได้ด้วยเลยนะ
หรือจะเป็นเพราะเสน่ห์อันแรงกล้านี้ของเขา พระเจ้าจึงใส่เสน่ห์ด้านผูกมิตรกับเด็กมาให้แค่นิดหน่อย เลยทำให้ชีวิตนี้เขาไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากเด็กได้เลย?
ไม่ๆๆ ต้องเป็นเพราะความชอบของลูกฉูเจ๋อหยางไม่เหมือนกับความชอบของเด็กคนอื่นๆแน่
ไม่เห็นหรอว่าตอนนั้นฉูเจ๋อหยางยังชอบผู้หญิงที่ข้างนอกกับข้างในต่างกันลิบลับอย่างหนานฉิงได้เลย?
อื้อ ต้องเป็นเพราะเด็กนี้ชอบอะไรแปลกๆเหมือนฉูเจ๋อหยางแน่ๆ!
เจี่ยงเสี่ยวเล่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง โดยการโยนเหตุผลทั้งหลายไปที่ฉูเจ๋อหยางอย่างสบายใจ
เป้ยฉ่ายเวยพยายามทำตัวให้ดูปกติ แต่ทว่าหน้าแดงๆก็ยังคงบ่งบอกได้อยู่ดีว่าเธอกำลังอึดอัด
“แม่ครับ แม่ป่วยหรอ? ทำไมหน้าแดงอย่างนั้นล่ะ?” รุ่ยรุ่ยกระโดดลงจากเตียง มองเป้ยฉ่ายเวยด้วยสีหน้าเป็นห่วง
เป้ยฉ่ายเวยหลบสายตาล้อๆของเจี่ยงเสี่ยวเล่อ ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เปล่าครับ อาจเพราะแม่รีบเดินมา ก็เลยร้อนนิดหน่อย เออใช่ถ้ามีของอะไรที่หนูต้องเก็บเป็นพิเศษบอกแม่นะ”
“ครับ แม่แค่ดูผมเก็บก็พอแล้ว ผมไม่ว่าอะไร” แววตาของรุ่ยรุ่ยดูสงสัย
ระยะห่างระหว่างสองห้องก็ใกล้กันแค่นี้ จำเป็นต้องรีบวิ่งจนหน้าแดงขนาดนี้เลยหรอ?
หรือว่าคุณแม่อยู่กับคุณพ่อนานเกินไปเลยเริ่มพูดโกหกกับเขาแล้วใช่ไหม?
ไม่ชอบเลย!
เหอะ!
เจี่ยงเสี่ยวเล่อขำคิๆออกมา “นี่ไอ้หนู หนูยังเด็ก เรื่องบางเรื่องมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้ใหญ่ ไม่ใช่เรื่องที่หนูควรไปก้าวก่าย เข้าใจไหมครับ? หลังจากนี้ถ้าเห็นพ่อกับแม่หนูอยู่ด้วยกัน หนูต้องรีบหลบไปไกลๆเลยนะ ถ้าทำแบบนี้พ่อหนูก็จะยิ่งรักหนูมากๆ”
เป้ยฉ่ายเวยหูตั้งเมื่อได้ยินเขาพูดกรอกหูรุ่ยรุ่ยด้วยความคิดแบบนี้ ในความหมายของประโยคยังมีคำพูดเหน็บแหนมแฝงอยู่อีก ไม่รู้ว่าต้องหน้าแดงหรือต้องบอกให้เขาหยุดพูดดี
ยังดีที่รุ่ยรุ่ยไม่เข้าใจประโยคสองแง่สองง่ามนี้ แต่ความคิดแรกของเด็กน้อยก็คือ เจี่ยงเสี่ยวเล่อเป็นคนที่คุณพ่อส่งมา เพื่อให้มาแย่งคุณแม่ไปจากเขาใช่ไหม?
“ไม่ได้นะ คุณแม่เป็นของผม คุณพ่อต่างหากที่ต้องไปไกลๆ!” รุ่ยรุ่ยพองแก้มราวกับอมอาหารไว้
เป้ยฉ่ายเวยเกือบจะขำออกมา
เจี่ยงเสี่ยวเล่อมองรุ่ยรุ่ยด้วยแววตาเอ๋อๆ พูดขึ้นอย่างชิงชังว่า “นี่เจ้าตัวเล็ก หนูป็นผู้ชาย ต้องหัดรู้เรื่องพวกนี้เอาไว้บ้างนะ ถ้าพ่อกับแม่หนูอยู่ด้วยกัน นั่นแปลว่ากำลังทำน้องชายหรือน้องสาวให้หนูยังไงล่ะ ลองคิดนะ ถ้ามีน้องสาวที่นุ่มนิ่ม พูดจาอ่อนหวาน หรือจะเป็นน้องชายหล่อๆ วิ่งตามตูดหนูแล้วเรียกหนูว่าพี่ชายทั้งวัน หนูไม่อยากได้แบบนี้หรอ?”
เป้ยฉ่ายเวยใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว
“เอ่อ คุณเจี่ยงคะ ฉันว่าฉูเจ๋อหยางคงเก็บของคนเดียวไม่ไหวแน่ คุณไปช่วยเขาได้ไหมคะ?” เป้ยฉ่ายเวยคิดว่าถ้ายังไม่เอ่ยปากพูดอะไรอีก เจี่ยงเสี่ยวเล่อคงทำให้ลูกชายที่ไร้เดียงสาของเธอร้องไห้แน่
เจี่ยงเสี่ยวเล่อหันไปหัวเราะแหะๆให้เป้ยฉ่ายเวย จากนั้นก็ทำท่ารูดซิปปาก “ครับๆๆ ผมไม่พูดแล้วก็ได้ เฮ้อ อะไรกันพูดความจริงหน่อยก็ไม่ได้ โลกนี้มันน่าหดหู่เสียจริง!”
เป้ยฉ่ายเวย “.copy right hot novel pub