บทที่451 แก้แล้วแก่เลย
คำของเป้ยฉ่ายเวยนั้น หลี่จื่อเชียนไม่ได้รีบตอบในทันที แต่เขากลับยื่นมือออกไปกุมมือเธอเอาไว้แทน
เธอสะดุ้งและหันกลับไปมอง
สายตาหลี่จื่อเชียนเปี่ยมไปด้วยความจริงใจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันล้นไปด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างความรักที่ลึกซึ้งไม่อาจแยกจากกัน “แน่นอนว่าผมเป็นห่วงพ่อแม่ผมมาก แต่ว่าเวยเวย ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณและผม เราจะสามารถเอาชนะใจของพวกท่านได้”
เธอหลับตาลง
เขารู้จักฉวยโอกาสเอาไว้ ราวกับเหมาเอาแล้วว่าเธอจะต้องตอบตกลง
“จื่อเชียน คุณแน่ใจแล้วหรอ” เป้ยฉ่ายเวยกัดริมฝีปาก “บางทีการให้อภัย อาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตนะ พ่อแม่เลี้ยงคุณมาจนเติบโต พวกท่านอุทิศทุกอย่างเพื่อคุณมามาก พวกท่านย่อมต้องคาดหวังว่าคุณจะได้ผู้หญิงที่คู่ควรกับคุณ คุณแน่ใจหรอว่าอยู่กับฉันมันคุ้มค่ากันน่ะ”
“คุ้ม!” หลี่จื่อเชียนพยักหน้าพร้อมพูดอย่างแน่วแน่
เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกใจสั่น
คงไม่มีผู้หญิงคนไหนเมื่อได้ยินเช่นนี้แล้วจะไม่รู้สึกหวั่นไหว
เป้ยฉ่ายเวยลดศีรษะลง “เราไม่ได้เจอกันสี่ปีนะ ถ้าหากว่าความรู้สึกของคุณโดยมากเป็นเพราะความลุ่มหลงแต่ก่อนนี้ ความรู้สึกในตอนแรกเริ่มมันไม่สามารถบ่งบอกถึงความยืนยาวในอนาคตนะ อีกอย่างคุณอาจจะถูกความรู้สึกครั้งแรกกำลังหลอกคุณอยู่ก็ได้ ที่จริงแล้วฉันไม่ได้ดีอะไร…”
“เวยเวย ผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมรู้ดีว่าจริงๆแล้วตัวเองรู้สึกกับคุณยังไง คุณอาจจะปฏิเสธผม ท่านอาจารย์โปรดอย่าได้สงสัยความรู้สึกของศิษย์ที่มีต่อท่านเลย” หลี่จื่อเชียนกำมือเป้ยฉ่ายเวยแน่น
ในที่สุดเป้ยฉ่ายเวยก็มีรอยยิ้มอันมั่นคงปรากฏบนใบหน้า
“ได้ ฉันรับปากคุณ”
หลี่จื่อเชียนตะลึงงัน
ความสุขเกินขึ้นในฉับพลัน เขายังไม่ทันได้เข้าใจความหมายในคำพูดของเธอ
เขาจ้องมองเป้ยฉ่ายเวยอย่างอึ้งๆไป พูดราวกับว่าจะเป็นลมหมดสติไป “เวยเวย คุณ คุณหมายความว่า…”
“หมายความอย่างที่คุณคิดนั่นแหละ” หน้าเป้ยฉ่ายเวยแดงขึ้นมา
ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกน่าขันและรันทดใจ
โลกนี้มีคนที่ไม่สมหวังในรักตั้งเยอะแยะไป ช่างน่าหดหู่ใจ
เธอทุ่มเทให้กับความรักของเธอไปตั้งมากมายแล้ว ถึงเวลาปล่อยมันไปแล้วล่ะ
หลี่จื่อเชียนเนื้อเต้นเขาดีใจจนต้องขอความมั่นใจจากเป้ยฉ่ายเวยอีกครั้ง “ความหมายที่ผมคิด...คุณตอบตกลงแต่งงานกับผมแล้วหรอ”
เป้ยฉ่ายเวยพยักหน้าอย่างเหลืออด “ยังไม่ชัดเจนอีกรึ”
“ดีเหลือเกิน ดีเหลือเกิน!” หลี่จื่อเชียนลุกพรวด พร้อมตะโกนสุดเสียง
เขาไม่รอให้เป้ยฉ่ายเวยมีปฏิกิริยาใด เขาอุ้มเธอลอยขึ้นมา ทั้งตัวอยู่ในอ้อมแขนของหลี่จื่อเชียน เขาไม่สนใจทุกผู้ทุกสายตา อุ้มเป้ยฉ่ายเวยและหมุนตัวไปรอบๆด้วยความสุขใจ
เป้ยฉ่ายเวยหน้าแดงไปทั่วทั้งหน้า
บรรยากาศในร้านอาหารรู้สึกแตกต่างออกไป ทุกผู้ทุกคนต่างร่วมอวยพรแก่คนทั้งคู่
หลี่จื่อเชียนยิ้มร่า เขากล่าวขอบคุณกับการอวยพรของทุกผู้คนทีละคนทีละคน
ภายใต้รอยยิ้ม ทั้งคู่สวมกอดกันอย่างกระตือรือร้น สถานที่นั้นเต็มไปด้วยความโกลาหล เสียงถ่ายรูปดังสนั่นขึ้น
ในตอนเย็นเป้ยฉ่ายเวยกลับไปยังอพาร์ทเม้นต์กับหลี่จื่อเชียน บรรยากาศของทั้งคู่นั้นช่างชื่นมื่น เหมือนกับคู่รักทั่วไป
และเพราะว่าเป้ยฉ่ายเวยเพิ่งจะยอมรับตัวตนของเขา หลี่จื่อเชียนจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กลับไปแล้ว แต่เมื่อกลับไปแล้วเขาก็ปรึกษากับเป้ยฉ่ายเวยเรื่องกำหนดวันแต่งงาน
“เวยเวย เรื่องแต่งงานผมว่าเราควรจะกำหนดวันได้แล้วนะ ไว้สุดสัปดาห์นี้ ผมจะพาคุณไปดูสถานที่” หลี่จื่อเชียนเอ่ยขึ้นมาอย่างลึกลับ
เป้ยฉ่ายเวยจ้องเขาด้วยความสงสัย ก่อนจะนิ่งไป “ที่ไหนคะ”
“ไปแล้วก็รู้เองล่ะ”
เป้ยฉ่ายเวยเบ้ปาก แต่ก็พอจะเดาได้บ้าง
เมื่อพูดถึงเรื่องแต่งงาน และยังบอกจะพาเธอไปสถานที่แห่งหนึ่ง ถ้าไม่ใช่ลองชุดเจ้าสาวก็คงจะเป็นเรื่องเซอไพรซ์อะไรสักอย่าง
เธอตั้งตารอ
หลังจากที่กลับไปจากฉูเจ๋อหยางกะทันหันในคืนนั้น หนานฉิงก็อดใจไม่มาหาเขาอยู่สองวัน แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีสายโทรมาจากคฤหาสน์เสียที เธอจึงนึกโทรหาคุณนายฉูถามไถ่ทุกข์สุข
คุณนายฉูไม่ได้รู้สึกว่าถูกรบกวน แรกๆเธอก็รับสายอยู่สองหน หลังๆโทรมาอีก เธอจึงให้แม่บ้านปฏิเสธไป
ทุกครั้ง คุณนายฉูก็จะถลึงตาใส่ฉูเจ๋อหยาง “รีบจัดการเรื่องค้างคาของแกให้เรียบร้อยซะ”
ฉูเจ๋อหยางยิ้มให้อย่างสมน้ำหน้า
วันหยุดสุดสัปดาห์ในช่วงเช้า ฉูเจ๋อหยางได้รับจดหมายหนึ่งฉบับ ข้างในซองเป็นรูปภาพสองสามใบซึ่งเชื่อมต่อกัน ชายหญิงในภาพโอบกอดกันอย่างมีความสุขราวกับว่าได้ครอบครองโลกทั้งใบ
ฉูเจ๋อหยางจ้องมองด้วยสีหน้าอันหมองหม่นรูปภาพนั้นแสงและองค์ประกอบดีมากจนไม่เหมือนกับการแอบถ่ายเลย เขากำซองจดหมายแน่นราวกับจะบดมันให้กลายเป็นผุยผง
ผู้หญิงคนนี้สามวันเท่านั้น ไวไฟเป็นบ้า!
ก็ดี!
“เฉียวเจิ้นหลี เอาตารางสถานที่และการเดินทางของหลี่จื่อเชียนล่าสุดมาให้ผมที!” ประโยคแรกที่เขาพูดกับเฉียวเจิ้นหลีหลังจากที่โทรหาก็คือเช่นนี้
เฉียวเจิ้นหลีแอบวิเคราะห์อยู่เงียบๆว่าอารมณ์ของชายคนนี้ตอนนี้แย่สักแค่ไหน พูดมาคำแรกก็บอกให้ส่งข่าวที่เขาต้องการรู้มาให้
สิบนาทีหลังจากนั้น ฉูเจ๋อหยางมองไปยังที่อยู่ด้านบน ก่อนจะยิ้มอย่างหยาบคาย
ตั้งแต่เช้าตรู่เป้ยฉ่ายเวยก็แต่งตัวเรียบร้อยเพื่อที่จะติดตามหลี่จื่อเชียนไปยังสถานที่ที่เขาพูดถึง
ขับรถไปยังห้างสรรพสินค้า และเดินเข้าไปยังอาคารของร้านขายเครื่องประดับสามชั้น เธอถึงได้รู้
ที่แท้ก็มาเลือกเครื่องประดับที่จะใส่ในวันแต่งงาน
“จื่อเชียน คุณบอกว่าจดทะเบียนสมรสกันก่อน เรื่องอื่นๆก็ทำอย่างเรียบง่ายไม่ใช่หรอคะ” เป้ยฉ่ายเวยอ้าปาก เธอรู้ว่าเครดิตการ์ดของหลี่จื่อเชียนตอนนี้ก็เหลือวงเงินอยู่ไม่มาก หลายบัตรที่เป็นของบริษัทและที่เกี่ยวข้องกับบ้านหลี่ได้ถูกคุณพ่อหลี่ระงับเอาไว้หมดแล้ว แต่ว่าร้านนี้ เป้ยฉ่ายเวยรู้จัก เป็นร้านเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงระดับโลก การออกแบบมีเอกลักษณ์พิเศษ ทุกคอลเล็คชั่นที่ออกมาเป็นตัวกำหนดเทรนด์ นอกจากราคาจะแพงแล้ว นับว่าไม่มีข้อเสียอื่นๆเลย หลี่จื่อเชียนลูบมือเธอเป็นการปลอบโยน “เรื่องอื่นทำอย่างเรียบง่ายได้ แต่ว่าแหวนแต่งงานจะไม่มีไม่ได้” “แต่ว่าแหวนแต่งงานไม่จำเป็นต้องซื้อที่นี่ก็ได้นี่คะ ฉันจำได้ว่าชั้นสองก็มีร้านดีๆอยู่ไม่น้อย เรา…” เป้ยฉ่ายเวยกัดริมฝีปากพร้อมกับดึงมือเขาไป หลี่จื่อเชียนส่ายหัว “เราเข้าไปดูกัน ถ้าหากว่าไม่ชอบแล้วล่ะก็ ค่อยออกมาก็ยังไม่สาย อีกอย่าง เวยเวย ในสายตาคุณผมเป็นคนที่แม้แต่แหวนแต่งงานก็ซื้อไม่ไหวอย่างนั้นหรอ” เขามีรอยยิ้มในดวงตา ราวกับว่ารู้ความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเป้ยฉ่ายเวยอย่างไรอย่างนั้น เป้ยฉ่ายเวยกัดริมฝีปาก เถียงเขาไม่ออก ได้แต่เดินตามเขาเข้าไป บ้านหลี่ ตั้งแต่ที่หลี่จื่อเชียนออกมาจากบ้าน บรรยากาศในบ้านช่างดูหดหู่ คุณพ่อหลี่ป่วยลงครั้งหนึ่ง คุณแม่หลี่ก็มักจะโกรธหงุดหงิดอยู่เสมอ ทุกวันนี้หล่อนไม่ได้ออกไปคุยสนทนากับใครเป็นเวลานานแล้ว ฉะนั้นตอนที่เสี่ยวหย่าโทรมา คุณแม่หลี่จึงไม่คิดอะไรมากก็รีบออกไป “คุณป้า สีหน้าคุณป้าไม่ค่อยดีเลยนะคะ ไม่สบายรึเปล่าคะ” เสี่ยวหย่าจ้องคุณแม่หลี่ด้วยความเป็นห่วง คุณแม่หลี่ฝืนยิ้มออกมา พร้อมกับส่ายหัว “อาจจะเพราะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับน่ะ แก่แล้ว สู้หนุ่มๆสาวๆอย่างหนูไม่ได้ กระปรี้กระเปร่า ไม่หลับไม่นอนทั้งคืนก็ยังไม่เหนื่อยล้า” “ที่ไหนกันคะ คุณป้ายังสาวมากอยู่เลย” เสี่ยวอมยิ้มน้อยๆ
copy right hot novel pub