บทที่452 ไม่สบาย
เมื่อคุณแม่หลี่เห็นเสี่ยวหย่ายิ้มแย้ม เธอก็แอบทอดถอนใจ
เด็กดีอย่างนี้ ทำไมหลี่จื่อเชียนถึงได้ไม่รู้จักรักษาเอาไว้!
“เสี่ยวหย่า ป้าขอโทษด้วยนะ พี่จื่อเชียนเขา…” คุณแม่หลี่หงุดหงิดขึ้นอีกครั้ง
เสี่ยวหย่าหยุดคำพูดของเธอลงในทันที “คุณป้าคะ คุณป้าไม่ต้องกังวลนะ พี่จื่อเชียนเขาไม่ได้ชอบฉัน นั่นแสดงให้เห็นว่าฉันยังไม่ดีพอ จะไปโทษคุณป้าได้ยังไงกันคะ คุณป้าดีกับหนูเสมอมา ปฏิบัติกับหนูเหมือนเป็นลูกของคุณป้าเอง ไม่ต้องขอโทษหนูหรอกนะคะ”
พูดแล้ว เสี่ยวหย่าก็ทำท่าเหงาหงอย
“หนูรู้ว่าพี่จื่อเชียนเห็นหนูเป็นแค่น้องสาวมาโดยตลอด อีกอย่างคุณเป้ยก็น่าจะสวยมาก เธอกับพี่จื่อเชียนรักกันมาก...ขอแค่พี่จื่อเชียนมีความสุข หนูก็พอใจ คุณป้าคะ ถึงแม้ว่าตอนนี้หนูจะไม่ได้ถูกเลือก แต่ว่าหนูก็จะพยายาม!” เสี่ยวยิ้มด้วยความสงบ ความเข้มแข็งนั้นทำให้คนช่างเป็นทุกข์ใจ
ใจคุณแม่หลี่ยิ่งเพิ่มความขุ่นเคืองในตัวเป้ยฉ่ายเวยยิ่งขึ้นไปอีก
เธอยังจะบอกว่าเป้ยฉ่ายเวยดีมากอีก คุณแม่หลี่พ่นลมหายใจออกมา “ก็ผู้หญิงคนนั้นแหละ เฮ่อ หน้าไหว้หลังหลอก ผู้หญิงอย่างนี้ต่อให้สวยแล้วจะยังไงได้ ถ้ายังมีหัวใจเหมือนงูพิษออกอย่างนั้นน่ะ! หนูวางใจเถอะ ป้าจะไม่ยอมให้เขาแต่งกับพี่จื่อเชียนเด็ดขาด”
พูดแล้ว เธอก็นึกถึงเรื่องคราก่อนตอนที่เจอกับเป้ยฉ่ายเวย อยู่ๆก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา
ผู้หญิงคนนั้นเป็นนางจิ้งจอกกลับชาติมาเกิด ช่างมั่นอกมั่นหน้านัก
นัยน์ตาเสี่ยวหย่าฉายแววอมยิ้มออกมา เมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดของคุณแม่หลี่ เธอจึงเข้าประชิดเธออย่างเห็นอกเห็นใจ “คุณป้าคุณป้าคะ อย่าพูดเรื่องพวกนี้เลย วันนี้เราออกมาพักผ่อนคลายเครียดกัน เรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจเราอย่าไปพูดถึงมันเลยค่ะ”
คุณแม่หลี่สงบนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง และไม่พูดถึงเรื่องรบกวนจิตใจนั่นอีก
“หนูพูดถูก ไม่พูดเรื่องกวนใจนั่นแล้ว” เธอไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นจะอยู่กับคนที่เหลือแต่ตัวได้
รอจนถึงขณะที่ทั้งคู่
รอให้ถึงตอนที่สองคนนั้นไปกันไม่รอด ที่สุดก็ต้องขอร้องกลับมา เมื่อถึงตอนนั้น นั่นแหละที่จะเป็นเวลาที่ต้องมาขอร้องอ้อนวอนต่อเธอ
คุณแม่หลี่มั่นใจว่าเป้ยฉ่ายเวยมาเกาะหลี่จื่อเชียนก็เพราะเงิน คุณพ่อหลี่จึงคิดหาวิธีให้เขาได้ลิ้มรสความยากลำบากจะได้กลับมา
เสี่ยวหย่าพาคุณแม่หลี่ไปที่ชั้นสาม คุณแม่หลี่ก็สงสัยใจ “วันนี้เราออกมาแต่เช้า เราค่อยๆเดินกันก็ได้ไม่ใช่รึ”
“คุณป้า หนูได้ยินมาว่าเพิ่งจะมีชุดออกแบบมาใหม่นำเข้ามาจากเมืองนอก มีจำนวนจำกัด ถ้าช้าไม่รู้ว่าจะยังเหลืออยู่รึเปล่าน่ะคะ” เสี่ยวหย่าพูดอย่างเอียงอาย ราวกับว่าตัวเองรีบร้อนเหลือเกิน
คุณแม่หลี่เข้าใจว่าหนุ่มสาวชอบหลงใหลในเครื่องประดับ เธอจึงไม่ได้พูดมากอะไรอีก ได้แต่ตามเสี่ยวหย่าไป
ในร้านเครื่องประดับมีห้องรับรองแขกพิเศษอยู่
ขณะนี้สายตาเป้ยฉ่ายเวยจับจ้องอยู่ที่แหวนที่หลี่จื่อเชียนให้คนเอาออกมาให้ดู จ้องไปก็ตะลึงไป
“ชอบไหม” เขายิ้มอ่อนพร้อมกับหยิบกล่องแหวนกล่องหนึ่งวางลงบนมือเป้ยฉ่ายเวย
มีเพชรสีชมพูน้ำงามขนาดใหญ่เจิดจรัสอยู่ตรงกลางแหวน พื้นผิวระยิบระยับ กระทบกับแสงจากโคมไฟ ส่องประกายระยิบระยับ นอกจากนี้ยังมีเพชรเม็ดเล็กๆล้อมรอบไว้ทั้งสองด้าน เป็นเพชรขนาดเล็กซึ่งไม่ได้สะดุดตาผู้คนนัก
สไตล์โดยรวมดูยิ่งใหญ่และเรียบง่าย แต่ถ้าพินิจโดยละเอียดแล้ว จะพบว่าเต็มไปด้วยส่วนประกอบอันหรูหรา
เป้ยฉ่ายเวยต่อให้โง่ก็ไม่ถึงกับไม่รู้มูลค่า เธอรู้ว่าเครื่องประดับชั้นสูงเช่นนี้ราคาตั้งไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน
คร่าวๆก็น่าจะหลายแสนได้
เป้ยฉ่ายเวยกลืนน้ำลาย สีหน้าดูจริงจัง “นี่ราคาเท่าไหร่คะ”
หลี่จื่อเชียนอมยิ้ม
เธอทำท่าทำทางเหมือนกับแม่บ้านเลย น่ารักชะมัด
“แอบบอกคุณนะ วงนี้จองเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เงินก็จ่ายไปแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าคุณไม่ชอบล่ะก็ เปลี่ยนไม่ได้แล้วล่ะ รู้รึเปล่า” หลี่จื่อเชียนยื่นมือมาป้องปาก พร้อมกับลดเสียงลงกระซิบกระซาบ
เป้ยฉ่ายเวยปากสั่นเล็กน้อย
ช่างเป็นข่าวที่น่าเศร้า
หรือว่าเขาเป็นคนมองการณ์ไกลกันแน่
แต่ว่าแหวนมันมูลค่าสูงมากนะ!
เอาล่ะ ยังไงเขาก็ต้องซื้อแหวน
“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามเมื่อกี๊เลย” เป้ยฉ่ายเวยพุ่งเข้าประเด็น
หลี่จื่อเชียนเลิกคิ้วขึ้น
เธอพูดขึ้นอีกครั้ง “ราคาเท่าไหร่คะ”
หลี่จื่อเชียนทำท่าทำทางเอือมระอา
เธอน่าจะเดาต่ำเกินไป
หลี่จื่อเชียนถามอีกรอบหนึ่งว่าเธอพอใจหรือไม่ เป้ยฉ่ายเวยก็ตอบว่าพอใจอย่างอ้ำอึ้ง
คงพอใจมากเกินไปไม่ได้หรอกใช่ไหมล่ะ
หลี่จื่อเชียนโบกมือใหญ่อย่างมีความสุข “วงนี้แหละ”
พนักงานขายพยักหน้ารับคำ เธอรับแหวนจากทั้งคู่มาเพื่อนำไปบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์
“จื่อเชียนรึ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แก…” อยู่ๆคุณแม่หลี่ก็เดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อสายตาเธอเหลือบไปเห็นเป้ยฉ่ายเวย หน้าเธอก็บูดบึ้งขึ้นมาในทันใด คิ้วขมวดชนกัน
แวบแรกของเสี่ยวหย่าสายตาเธอก็เหลือบไปเห็นแหวนที่ที่ซ่อนอยู่ในมือพนักงานขาย
วินาทีนั้นอารมณ์เธอก็เปลี่ยนไป แต่เธอก็ยังแกล้งทำเป็นพูดอย่างเข้มแข็ง “พี่จื่อเชียน มาเลือกแหวนแต่งงานกับคุณเป้ยหรอคะ จะแต่งงานแล้วใช่ไหม”
หลี่จื่อเชียนชำเลืองมองเธอเล็กน้อย ตั้งแต่ล่าสุดที่เกิดเรื่องขึ้นที่บ้าน เขาก็ตีตัวออกห่างจากเสี่ยวหย่าอยู่ไม่น้อย
เขาเองที่โง่ หญิงสาวที่มาจากตระกูลใหญ่โต จะไม่มีความทะเยอทะยานสักนิดเลยได้อย่างไรกัน
เสี่ยวหย่าเห็นเขามองด้วยสายตาอันเย็นชาเธอก็นิ่งไป
คุณแม่หลี่สีหน้าเปลี่ยน “จื่อเชียน แกจะแต่งงานกับแม่นี่จริงๆรึ” เป้ยฉ่ายเวยกัดฟัน และดึงชายเสื้อหลี่จื่อเชียนไว้โดยไม่ได้พูดจา “ใช่ คราวก่อนผมก็บอกแม่แล้วไงครับ ว่าจะจัดงานแต่งงานเร็วๆนี้ เมื่อได้วันเวลาที่แน่นอนแล้วจะบอกแม่ ถ้าแม่พอมีเวลาก็มาช่วยได้ครับ” เสียงหลี่จื่อเชียนกล่าวอย่างสงบนิ่ง มือเป้ยฉ่ายเวยที่กุมมือเป้ยฉ่ายเวยเอาไว้ยังกุมเอาไว้อย่างแน่นิ่ง คุณแม่หลี่ไม่คาดคิดว่าในวันนี้ที่เครดิตการ์ดของเขาถูกระงับ งานก็ไม่มี เขายังคงมุ่งมั่นยืนกรานที่จะอยู่กับผู้หญิงคนนี้อย่างไม่หวั่นไหวใดๆ เธอหัวร้อนขึ้นมาในทันใด เธอยกมือขึ้นปัดกล่องแหวนตกลงบนพื้น “หลี่จื่อเชียน ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่แม่จะไม่มีวันยอมให้แกแต่งงานกับแม่นี่!” คุณแม่หลี่โวยวาย พนักงานขายตกใจ ตาเบิกโตก้าวถอยหลังไปสองก้าว มองไปที่แหวนเพชรบนพื้น ใจเต้นตุบตับ ซวยแล้ว ถึงจะเป็นการทะเลาะเบาะแว้งของผู้ดี แต่ว่าภายหลังก็ต้องมีการชดเชย ถ้าหากว่าเกิดตำหนิจนต้องรับผิดชอบจะทำอย่างไร เมื่อคิดเช่นนี้แล้วหน้าตาเธอก็ยุ่งเหยิง หลี่จื่อเชียนขมวดคิ้ว “แม่ครับ ผมพูดไปหลายรอบแล้ว ผมไม่อยากทะเลาะกับแม่ที่นี่อีก ไม่ว่ายังไง ผมกับเวยเวยก็จะแต่งงานกันครับ” “หลี่จื่เชียน แกจะให้แม่อกแตกตายหรือยังไง ใช่รึเปล่า” คุณแม่หลี่ขึ้นเสียงอย่างเกรี้ยวกราด เสี่ยวหย่าดึงคุณแม่หลี่เอาไว้ “คุณป้าคะ อย่าโมโหค่ะอย่าโมโห พี่จื่อเชียนแค่ล้อเล่นเท่านั้นแหละค่ะ อย่าโมโหไปเลย” เธอกรอกตาไปมองที่หลี่จื่อเชียน “พี่จื่อเชียน ตั้งแต่พี่ออกจากบ้านไป สุขภาพของคุณป้าก็ไม่ค่อยดี พี่อย่ายั่วโมโหคุณป้าเลยค่ะ”
copy right hot novel pub