โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่453 ฆ่านังสารเลวของแก

บทที่453 ฆ่านังสารเลวของแก

เสี่ยวหย่าพูดประโยคนี้ด้วยความกังวล ไม่เหมือนกับลูกสะใภ้ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ชอบใจ แต่กลับเหมือนกับว่าตัวเป็นลูกสาวแท้ๆคนหนึ่ง

เป้ยฉ่ายเวยก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อยหนึ่งก้าว

หลี่จื่อเชียนหน้าเสียอยู่พักหนึ่ง

ชั่วพริบตา แต่ว่าเสี่ยวหย่าก็เห็นจนได้

“พี่จื่อเชียน คุณป้าท่านเป็นห่วงพี่อยู่ตลอดนะคะ กลัวว่าพี่จะกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ว่าคุณลุงก็มาป่วยลงอีก หลายวันนี้มีเรื่องวุ่นวายปวดหัวไม่น้อย เกือบทำเอาคุณป้าทรุดไป กว่าฉันจะลากคุณป้าออกมาเดินเล่นเป็นเพื่อนได้ พี่จื่อเชียน เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเราหลายปีที่ผ่านมา อย่าพูดคำพูดทำร้ายจิตใจพวกนั้นอีกเลยนะคะ ได้มั๊ย” เสี่ยวหย่าพยายามอย่างยิ่ง เธอกัดริมฝีปากกระซิบขอร้องหลี่จื่อเชียน

เป้ยฉ่ายเวยยิ้มเยาะ ไม่รู้ทำไม อยู่ๆเธอก็นึกถึงหนานฉิงขึ้นมา

คนคนนี้กับหนานฉิงคล้ายกันมาก แสดงออกอย่างกระตือรือร้นมีน้ำใจ แต่จริงๆเป็นการเสแสร้งอย่างแยบคาย

หลี่จื่อเชียนเก็บสีหน้าท่าทาง พร้อมหันไป “แม่ครับ ผมกับเวยเวยยังมีธุระต้องทำอีกขอตัวก่อนนะ!”

เขาโอบไหล่เป้ยฉ่ายเวยไว้ และเดินออกไปข้างนอก ไม่สนใจแหวนบนพื้นอีกแล้ว

ไม่รู้คุณแม่หลี่เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอพุ่งไปขวางตรงหน้าคนทั้งสองที่กำลังจะออกไป สีหน้าน่ากลัวนัก

เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกพลังอันพลุ่งพล่าน จากนั้นก็มีเสียงตบดังขึ้น

“นังดอกทอง มาให้ท่าลูกชายของฉัน ฉันจะฆ่าแก ฆ่าแกให้ตายซะนังเจ้าเล่ห์…” คุณแม่หลี่เร่าร้อง เธอพุ่งไปข้างหน้าพร้อมคว้าผมของเป้ยฉ่ายเวยเอาไว้

ในสมองหยุดคิดถึงใบหน้าเยาะเย้ยของเหล่าบรรดาท่านผู้หญิงเหล่านั้นไม่ได้ บรรยากาศในบ้านยิ่งนานวันก็ยิ่งหดหู่ เมื่อคิดถึงเรื่องเข้าโรงพยาบาล ก็คิดว่าเรื่องทั้งหมดที่โดนกระทำก็เพราะว่าผู้หญิงตรงหน้านี้คนเดียว

ความเกลียดชังที่มีต่อเป้ยฉ่ายเวยก็ยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก ค่อยๆหลั่งไหลออกมา

“อ๊ะ…” เธอไม่ได้ทันได้ตั้งตัว ส่งเสียงร้องออกมา

หลี่จื่อเชียนตกใจจนหน้าถอดสี “แม่ แม่ทำอะไรน่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้ แม่กำลังทำอะไร…”

“ปล่อยฉัน ฉันจะฆ่านังสารเลวนี่ให้ตาย...ปล่อย แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” คุณแม่หลี่ดูแล้วเหมือนคนบ้า เธอจิกหัวเป้ยฉ่ายเวยเอาไว้ไม่ยอมให้ไปไหน

เป้ยฉ่ายเวยเห็นว่าอีกฝ่ายคือผู้อาวุโส เธอไม่กล้าลงมือ อีกอย่างวันนี้ก็ใส่รองเท้าส้นสูง จะทำอะไรก็ไม่ค่อยถนัดนัก ผมถูกดึงจนเจ็บ น้ำตาก็ไหลออกมา ได้แต่ร้องเรียกชื่อหลี่จื่อเชียนไม่หยุด

“จื่อเชียน...จื่อเชียน...เจ็บ...”

สีหน้าหลี่จื่อเชียนเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ “แม่ ปล่อยเดี๋ยวนี้ แม่…”

“พี่จื่อเชียนระวังหน่อย อย่าทำคุณป้าเจ็บ!” เสี่ยวหย่าเห็นหลี่จื่อเชียนจะยื่นมือเข้ามาช่วย เธอจึงรีบดึงเกาะแขนของหลี่จื่อเชียนเอาไว้

หลี่จื่อเชียนสลัดมือ เกือบทำเอาเธอกระเด็นออกไป

“พี่จื่อเชียน…” เสี่ยวหย่าตกใจ ร่างอันบอบบางเซจนเกือบจะล้มลง

หลี่จื่อเชียนเบือนหน้าไปหาเธอด้วยความเย็นชา “หุบปากเดี๋ยวนี้!”

แวบหนึ่งเท่านั้น ทำเอาเธอถึงกับชะงักไป

เขาหันตัวกลับไปดึงแขนคุณแม่หลี่ซึ่งกำลังยกขึ้นสูงขึ้น หนี่จื่อเชียนพูดเสียงแข็ง “แม่ พอได้แล้ว”

“แก…” คุณแม่หลี่เคลื่อนตัวไปช้าๆ เธอเงยหน้าขึ้นมองหลี่จื่อเชียนอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เขาบีบแขนแม่ด้วยมือข้างเดียว อีกมือหนึ่งจับเป้ยฉ่ายเวยเอาไว้ ทั้งยังยื่นครึ่งตัวไปบังเป้ยฉ่ายเวยเอาไว้ ความใกล้ชิดสนิทสนมนั้น ยิ่งทำให้คุณแม่หลี่คลุ้มคลั่งขึ้นไปอีก

“หลี่จื่อเชียน แกกล้าดียังไงมาทำร้ายแม่เพื่อผู้หญิงคนนี้ เอาสิ มาเลย ลงมือเลย!” คุณแม่หลี่ยื่นหน้าเข้าหา ท่าทางเกรี้ยดกราด ทำราวกับว่าถ้าหลี่จื่อเชียนไม่ลงมือเธอก็จะกัดไม่ปล่อย

ดังนั้น หลี่จื่อเชียนเงอะๆงะๆ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

เขาถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนที่จะปล่อยมือออก

คุณแม่หลี่ยิ้มอย่างได้ใจ ใช้ประโยชน์จากพื้นที่อันเปิดโล่ง คว้าตัวเป้ยฉ่ายเวยเอาไว้

“อ๊ะ…”

“แม่…”

เสียงร้องนั้นไม่ได้เป็นของเป้ยฉ่ายเวย แต่เป็นเสียงของคุณแม่หลี่

มือของคุณแม่หลี่ถูกฝ่ามือใหญ่จับเอาไว้ทางด้านหลังอย่างรุนแรง เธอผละไปทางด้านหลัง ยิ้มกัดฟันด้วยความเจ็บปวด ในที่สุดก็เธอก็ได้เห็นธาตุแท้ของเป้ยฉ่ายเวย

เป้ยฉ่ายเวยเงยหน้าขึ้นอ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อกับเมื่อเห็นคนที่กำลังเดินมา

สีหน้าหลี่จื่อเชียนหมองหม่น เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ “ทนายฉู ปล่อยแม่ผมด้วย”

ฉูเจ๋อหยางเชิดคางขึ้นเล็กน้อย ชำเลืองตามองไปยังหลี่จื่อเชียน จากนั้นก็ส่งเสียบเบาๆจนแทบไม่ได้ยิน “อ๊ะ!”

สีหน้าหลี่จื่อเชียนเปลี่ยนไปในทันที

แน่นอนว่าเขาฟังความนัยในเสียงประชดประชันนี้ออก

หลี่จื่อเชียนเหมือนกำลังอ้าปากต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง ฉูเจ๋อหยางหันไปมองที่เป้ยฉ่ายเวย “นี่คือคนที่คุณเลือกเฟ้นมาดีแล้วรึ ไหนคุณบอกว่าเขาปกป้องคุณได้ดียังไงล่ะ ปล่อยให้คุณถูกทำร้ายกลางสาธารณะเนี่ยนะ”

ตั้งแต่คุณแม่หลี่เริ่มลงมือก็มีคนมากมายพากันมามุงดู ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา ส่วนใหญ่ก็ล้วนกล่าวหาเป้ยฉ่ายเวย

ใบหน้าเธอยังมีร่องรอยแผลขีดข่วนจากการที่คุณแม่หลี่จิกตีเธอ

เป้ยฉ่ายเวยหมดหนทางที่จะบอกว่าไม่ได้มีอะไร เธอได้แต่ละศีรษะลง ปล่อยให้ฉูเจ๋อหยางพูดจาเสียดสีไป

“ทนายฉู นี่เป็นเรื่องของครอบครัวเรา ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!” หลี่จื่อเชียนกำหมัดแน่น มองอย่างเคียดแค้นไปที่ฉูเจ๋อหยาง อยากจะปล่อยไปซักหมัด

คุณแม่หลี่ได้สติกลับมา เธอจ้องฉูเจ๋อหยางด้วยความโมโห “มันเรื่องอะไรของคุณ คุณเป็นใคร ทำไมถึงไปเห็นใจนังสารเลวนี่… อ้อ ฉันรู้แล้ว คงไม่ใช่กิ๊กของนั่งนี่ที่มันแอบซ่อนเอาไว้หรอกใช่ไหม ฉันว่าแล้ว…”

“แม่ พอได้แล้ว!” หลี่จื่อเชียนเสียงแข็งด้วยความโกรธ หน้ามุ่ย ยิ่งพูดก็ยิ่งหดหู่ นี่มันน่าโมโหชะมัด

ดูเหมือนคุณแม่หลี่เพิ่งจะเคยเห็นหลี่จื่อเชียนหงุดหงิดฉุนเฉียวเช่นนี้เป็นครั้งแรก เธอสะดุ้งโหยง

เสี่ยวหยาก็พลอยถอยหลังไปด้วยหลายก้าว

เมื่อเห็นเช่นนั้น เขาก็จ้องเป้ยฉ่ายเวย ตอนนี้เป้ยฉ่ายเวยช่างน่าสงสารนัก ผมเผ้าเธอยุ่งเหยิง เสื้อผ้าก็ถูกดึงทึ้งจนยับยู่ยี่ แขนก็เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ หน้าตรงที่ถูกกระแทกก็เริ่มบวมแดง ดูไม่ได้เลย เขาไม่รู้จะเพิ่งลงมือจากตรงไหนก่อนดี อยากจะช่วยเหลือเธอเมื่อเห็นหน้าเธอบวมเป่ง และยิ่งทำให้รู้สึกผิดเข้าไปอีก “เวยเวย ผมขอโทษ…” หลังจากทั้งหมดทั้งมวล เขาได้แต่พูดคำนี้เป็นการชดเชยเท่านั้น เป้ยฉ่ายเวยส่ายหัว ไม่พูดอะไร ฉูเจ๋อหยางด้วยท่าทีเย็นชา เขาบีบแบบเป้ยฉ่ายเวยเอาไว้ “ผมจะพาคุณไปหมอ” “เวยเวย!” หัวสมองหลี่จื่อเชียนว่างเปล่า เขารีบคว้ามืออีกข้างของเป้ยฉ่ายเวยไว้ด้วยจิตใต้สำนึก ดังนั้น ก่อนหน้านี้ยังต่อสู้กันอย่างดุเดือดของผู้ดีมีตระกูล ตอนนี้กลายเป็นการต่อสู้ระหว่างสองชายหนึ่งหญิง ผู้คนที่มาคอยมุงดูอยู่รอบๆจับจ้องไปยังผู้ชายงานดีทั้งสองคนนั้น พวกเขาก็แอบคิดอยู่ในใจ ไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงคนนั้นแล้ว ต่อให้เป็นพวกเธอ เจอหนุ่มแซ่บสองคนนี้เข้าไป พวกเธอก็เลือกไม่ถูกเหมือนกัน สายตาฉูเจ๋อหยางจ้องเขม็งไปยังมือที่หลี่จื่อเชียนคว้าแขนของเธอเอาไว้ เสียงอันเย็นชาดังขึ้น “ปล่อยซะ!” หลี่จื่อเชียนไม่มีวันที่จะผ่อนปรน สีหน้าเขาแข็งกร้าวขึ้น “ทนายฉู คู่หมั้นผม ผมจะพาไปโรงพยาบาลเอง ไม่รบกวนคุณหรอก”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์