บทที่454 ออกไปให้พ้นหน้า
ทันใดนั้น ทั้งคู่ก็มองไปยังเป้ยฉ่ายเวย
เป้ยฉ่ายเวยลดศีรษะลง พร้อมกัดริมฝีปาก เธอไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอสะบัดมือทั้งสองข้างจนหลุด มือของชายทั้งคู่ถูกสลัดออกไป
“เวยเวย” หลี่จื่อเชียนลนลานตื่นตระหนก
ฉูเจ๋อหยางหรี่ตาลง จ้องเธออย่างไม่พอใจ
เป้ยฉ่ายเวยคำรามเสียงด้วยความโมโห “ไปให้พ้นทุกคนนั่นแหละ! ฉันไปโรงพยาบาลเองได้”
ไม่รอให้คนทั้งสองตอบสนอง เป้ยฉ่ายเวยก็รีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
พอหลี่จื่อเชียนได้สติก็จะรีบวิ่งตามไป แต่คุณแม่หลี่และเสี่ยวหย่าซึ่งคอยเฝ้าอยู่ตรงนั้นมีหรือจะยอมปล่อยให้เขาไป พวกเขาดึงเสื้อหลี่จื่อเชียนเอาไว้
“พี่จื่อเชียน พี่ดูสิมือของคุณป้าได้รับบาดเจ็บ พี่รีบพาคุณป้าไปโรงพยาบาลเถอะ” เธอจับจ้องไปที่เขาก่อนที่จะเบนสายตาพร้อมชี้ไปยังข้อมือแดงๆของคุณแม่หลี่
นั่นเป็นเพราะเมื่อครู่ฉูเจ๋อหยางออกแรงบีบเอาไว้
หลี่จื่อเชียนนิ่งไปครู่หนึ่ง
ข้างหูก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของฉูเจ๋อหยาง
เขาเงยหน้าขึ้นมอง สายตาเย้ยหยันไปทางฉูเจ๋อหยาง แต่ใจกลับรู้สึกละอาย
ฉูเจ๋อหยางหมุนตัว และจากไปยังทิศทางที่เป้ยฉ่ายเวยวิ่งไป
ทันใดนั้น หลี่จื่อเชียนก็รู้สึกแทบทนไม่ได้ เขาสลัดมือของเสี่ยวหย่า “ปล่อย!”
“พี่จื่อเชียน!”
“หลี่จื่อเชียน!”
ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะไม่คาดคิดว่าเขาจะไม่สนใจแม้กระทั่งคุณแม่หลี่ พวกเขาตกใจกันจนหน้าซีด แต่ว่าทั้งคู่ก็สวมรองเท้าส้นสูงอยู่ ได้แต่มองตามจนคนหายลับไป
คุณแม่หลี่โกรธจนถลึงตา “ไอ้ลูกไม่เอาไหน มันจะเกินไปแล้วนะ มากเกินไปแล้ว!”
เสี่ยวหย่าอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร แต่ว่าอากัปกิริยาของคุณแม่หลี่นั้นทำให้เธอตกใจมาก
กว่าเธอจะได้รับข่าวว่าวันนี้หลี่จื่อเชียนและเป้ยฉ่ายเวยจะมารับแหวนที่นี่ กว่าจะพาตัวคุณแม่หลี่ออกมาได้ ทั้งหมดก็เพื่อให้พวกเขาได้มีเรื่องกัน แต่ไม่คิดเลยว่าพี่จื่อเชียนจะเห็นผู้หญิงนั่นสำคัญเท่านี้
ดูเหมือนว่าไม้อ่อนจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว
เธอจะยอมเห็นพี่จื่อเชียนไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าต่อตาไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!
ขณะที่คุณแม่หลี่โมโหและกร่นด่า เธอจึงไม่ได้ทันสังเกตเห็นสายตาอันร้ายกาจของเสี่ยวหย่า
หลี่จื่อเชียนออกจากทางออกไป ไม่รู้ว่าเป้ยฉ่ายเวยและฉูเจ๋อหยางไปกันถึงไหนแล้ว เขามองหาอย่างบ้าคลั่ง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้อย่างเสียไม่ได้
เป้ยฉ่ายเวย ณ ขณะนี้ เหมือนมีเมฆหมอกปกคลุมอยู่หนึ่งชั้น เธอลดศีรษะลง ผมยาวกระเซอะกระเซิงไปทั้งหัว ชีวิตช่างโดนทำร้ายเหมือนกับผีซาดาโกะ
ถ้าหากว่าออกมาเดินตอนกลางคืน คนคงพากันวิ่งเผ่นแนบไปกันหมดแล้ว!
ทันใดนั้น ฉูเจ๋อหยางก็ยื่นมือออกไป แหย่ผมเธอให้เปิดออก
เป้ยฉ่ายเวยหลบด้วยสัญชาตญาณ ไม่ต้องการให้เขาเห็น
“อย่าขยับ!” เสียงอันเย็นเฉียบของฉูเจ๋อหยาง
มืออีกข้างหนึ่งก็เสยผมเธอขึ้น ในขณะที่ถอนหายใจออกอย่างเยือกเย็น
ใบหน้าทางด้านซ้ายของเป้ยฉ่ายเวยปรากฏเห็นเป็นรอยตบอย่างชัดเจน รอยนิ้วทั้งห้า สามารถจินตนาการได้ว่าผู้ตบนั้นออกแรงเพียงใด ทางด้านขวาก็มีรอยขีดข่วนอยู่สองรอย ดวงตาแดงก่ำ ที่มุมปากไม่รู้ว่าเป็นรอยเล็บหรือว่าโดนตบตีเข้า เห็นเป็นรอยแผล
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรอยเลือดด้านหลังใบหูเลย
เป้ยฉ่ายเวยเหมือนกับได้ยินเสียงข้อมือดังกรอบแกรบ
“เมี่อกี๊น่าจะเตะหล่อนไปสักที” ฉูเจ๋อหยางกัดฟันกราม สายตาเขาเปี่ยมไปด้วยความรักความทุกข์ซึ่งเธอไม่สามารถเข้าใจได้
ไม่รู้ทำไม น้ำเสียงเขาบวกเข้ากับประโยคนี้ สะกิดให้เป้ยฉ่ายเวยยิ้มขึ้นมาได้อย่างลึกลับ
เมื่อเห็นเธออยู่ๆก็ยิ้มขึ้นมา ฉูเจ๋อหยางก็รู้สึกประหลาดใจ
เขาหันกลับมามองเธอ “หรือคุณคิดว่ามีวิธีที่ดีกว่านี้”
เธอแหงนหน้าขึ้นมอง สีหน้าสงสัย
ฉูเจ๋อหยางเลิกคิ้ว “ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้เราตรวจประเมินกันที่โรงพยาบาลได้แล้วล่ะ จากนั้นค่อยไปฟ้องหล่อนข้อหาทำร้ายร่างกาย”
มุมปากเป้ยฉ่ายเวยโค้งมนขึ้น
“แล้วฉันมีทางเลือกอื่นหรือยังไง” เป้ยฉ่ายเวยทำเสียงขู่ฟ่อ
เธอจะต้องได้รับสิทธิ์เลี้ยงดูรุ่ยรุ่ย ตอนนี้มีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เต็มใจช่วยเธออย่างไม่มีเงื่อนไข
หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ มีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่รักเธอเสียเหลือเกิน
ฉูเจ๋อหยางจุก เขายกมือขึ้น ค่อยๆเลื่อนมือไปตามรอยฟกช้ำเขียวๆม่วงๆตามแขนเธอ “แน่นอนล่ะ เชื่อฟังผม ผมรับรองว่าเรื่องวันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
“ห๊ะ ได้คืบจะเอาศอก ฉูเจ๋อหยาง คุณลืมไปแล้วรึไงว่าก่อนหน้านี้เกิดเรื่องขึ้นกับรุ่ยรุ่ยได้ยังไง ก็เพราะคุณทั้งนั้นแหละ!” เป้ยฉ่ายเวยยิ้มเยาะ
ฉูเจ๋อหยางเลิกคิ้ว “คุณนี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาใช่ไหม”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” เป้ยฉ่ายเวยหันหลับมามองอย่างหงุดหงิด
เดิมทีวันนี้ก็สุขใจที่ได้ออกมาเลือกแหวนแต่งงาน ไม่คิดว่าเลยว่าจะมาเกิดเรื่อง หลี่จื่อเชียนเอาจริงๆก็ไม่ได้ปกป้องเธอไว้อย่างดี แต่ก็เป็นเพราะว่าคู่กรณีนั้นเป็นแม่ของเขา เขาย่อมลำบากใจ มันก็พอเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง
มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จริงเรื่องนี้ก็ทำให้เธอลังเลใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าหากว่าท่าทีของคุณพ่อหลี่คุณแม่หลี่ต่อต้านเช่นนี้เสมอ ถ้าเธอแต่งกับหลี่จื่อเชียนแล้ว จะไม่เป็นการแตกหักกันจริงๆหรือ
ผู้ชายบอกว่าไม่สนใจที่มีลูกติด แต่ถ้าหากว่านานวันไปล่ะ จะไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยแม้แต่น้อยอย่างนั้นหรือ
เธอควรจะทำยังไงดี
เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกว่าตอนนี้เธอเหมือนคนขี้ขลาด ที่ไหนก็ไม่กล้าไป ได้แต่หดขดตัวอยู่กับที่ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
เมื่อฉูเจ๋อหยางได้ยิน เขาก็ส่งเสียงยิ้มเยาะ
“ไม่ใช่เรื่องของผมเรอะ ถ้าไม่ใช่ว่าวันนี้ผมผ่านมาพอดี คุณคิดว่าคุณจะหนีรอดมาได้อย่างนั้นเรอะ อาจจะต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลแล้วล่ะมั๊ง” เขาเปิดปากประชดประชัน เป้ยฉ่ายเวยนิ่งไปไม่ส่งเสียงใด ตอนนั้นความคลุ้มคลั่งของคุณแม่หลี่ก็ทำให้เธอกลัว สักพัก เธอจึงเอ่ยปาก “ขอบคุณ” ไม่ว่ายังไง วันนี้ฉูเจ๋อหยางก็ได้ช่วยเธอไว้ “ผมการขอบคุณจากใจจริง พูดเฉยๆมันไม่จริงใจ” ฉูเจ๋อหยางเปล่งเสียง เป้ยฉ่ายเวยเงยหน้าขึ้นมอง “ถ้าอย่างนั้นคุณอยากได้อะไร” ดวงตาเขาลุกโชนเป็นเปลวเพลิง คำพูดที่คิดจะพูดตั้งแต่แรกนั้นสำลักติดอยู่ที่ลำคอ เขากระแอมหนึ่งเสียง “รุ่ยรุ่ยไม่ได้เจอคุณหลายวันแล้ว สองวันนี้อยู่บ้านก็ดูหงอยๆ เดี๋ยวไปเช็คที่โรงพยาบาลเสร็จแล้วก็ไปหารุ่ยรุ่ยที่บ้านก็แล้วกัน” เป้ยฉ่ายเวยลังเลก่อนจะพูดว่า “แต่ว่าสภาพฉันตอนนี้…” “อืม ก็ใช่ ถ้าหากว่ารุ่ยรุ่ยรู้ว่าคุณถูกทำร้ายเพราะว่าผู้ชายคนอื่นเลยทำให้ไม่ไปเจอเขาตั้งนาน เขาน่าเศร้ามากเลยนะ” ฉูเจ๋อหยางพูดให้ได้คิด เป้ยฉ่ายเวยจ้องเขาอย่างเกรี้ยวกราด ทุกวันเธอก็วีดีโอคอลคุยกับรุ่ยรุ่ยอยู่นะ ฉูเจ๋อหยางครุ่นคิด “เป้ยฉ่ายเวย เรามาเล่นเกมส์กันไหม”
copy right hot novel pub