บทที่459 แผนการล้มเหลว
ขณะที่ขึ้นลิฟต์ หลี่จื่อเชียนถาม “คนพวกนี้อาจจะทำให้คุณรำคาญใจบ้าง อย่าไปสนใจพวกเขาเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลินวี่”
เป้ยฉ่ายเวยยิ้มแห้งๆ “หลินวี่รึ คุณบอกว่าเธอเป็นรุ่นพี่คุณไม่ใช่เหรอ”
หลี่จื่อเชียนเคยบอกกับเธอเช่นนั้นในยามปกติ
“อื้อ ไม่เป็นไรหรอก คุณเป็นตัวของตัวเองก็พอ” หลี่จื่อเชียนลูบศีรษะเธอ
และแล้วหลินวี่ก็กวนใจจริงๆ
หลินวี่พาคนเข้ามา เธอก็ทำเป็นผิวปาก ทำตัวเหมือนเป็นนักเลงหัวไม้ ไม่ใช่เจ้าของบริษัท
“ฉันบอกแล้วว่าผู้อำนวยการหลี่ไม่สนใจดอกไม้ริมทางในบริษัทหรอก ที่แท้ก็มีดอกโบตั๋นซ่อนอยู่แล้วนี่เอง สวัสดีคนสวย ฉันเป็นนายของผู้อำนวยการหลี่ ชื่อหลินวี่” หลินวี่ก้าวเท้าไปข้างหน้า ปากเผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายที่สาวๆชอบทำกัน
เป้ยฉ่ายเวย : “...”
มีเจ้านายไม่สติไม่ค่อยดีแบบนี้ บริษัทจะไม่พังเอาใช่มั๊ย
เป้ยฉ่ายเวยใจนี่แทบกระอักเลือด ขณะที่ปากก็ฝืนยิ้มพร้อมยื่นมือออกมารีบจับรีบปล่อยในทันที “สวัสดีค่ะ ฉันเป้ยฉ่ายเวย”
หลี่จื่อเชียนไม่เปิดช่องให้หลินวี่เปิดศึก เขาพาเป้ยฉ่ายเวยเดินไปข้างหน้าแนะนำให้คนรอบๆรู้จัก
เหล่าบรรดาสาวๆอกหักดังเป๊าะ สายตาสลดไปตามๆกัน มีบางคนก็แอบมองเป้ยฉ่ายเวย จ้องจนตัวเธอแทบจะทะลุเป็นสองรูอยู่แล้ว
เป้ยฉ่ายเวยยิ้มด้วยความสุขุม ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
แต่ว่าผู้จัดการจ้าวคนนั้น ทำหน้าทำตาและมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ยากที่จะให้คนทำเป็นไม่สังเกตเห็น
ระหว่างทานข้าว เป้ยฉ่ายเวยก็เอาศอกกระทุ้งหลี่จื่อเชียน “คนนั้นเป็นแฟนคลับตัวยงของคุณเลยใช่มั๊ย”
หลี่จื่อเชียนเงยหน้าขึ้นมองไป ก่อนจะละสายตากลับมา เขาพูดยิ้มๆ “เพื่อนร่วมงานเท่านั้นล่ะ อย่าคิดมาก”
“แต่ดูเหมือนหล่อนจะเศร้ามากเลยนะ” เป้ยฉ่ายเวยแอบยิ้ม
ตาของผู้หญิงบนโลกนี้นั้นดีมาก เหมือนมีรังสีหรืออานุภาคบางอย่าง เป็นเรดาร์จับผู้หญิงสวยรอบๆตัว
หลี่จื่อเชียนเงยหน้าขึ้นมอง “งั้นเรารีบไปจดทะเบียนสมรสกันไว้ก่อนเลยมั๊ยล่ะ ให้ทุกคนรู้กันไปเลยว่าเราแต่งงานกันแล้วจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายอะไรอีก”
เป้ยฉ่ายเวยสมองตื้อไปเลย
เพราะเรื่องเมื่อตอนไปรับแหวนคราวก่อน ทั้งคู่เป็นอันเข้าใจกันไปโดยปริยายโดยไม่เอ่ยถึงเรื่องการแต่งงานอีกเลย
เธอก็ยังลังเลสับสน ส่วนเขาก็ยังรู้สึกผิด
“เฮ้เฮ้เฮ้ รู้กันหมดแล้วล่ะว่าพวกคุณเป็นคู่รักกัน เรื่องอย่างว่ากลับไปทำที่บ้านเถอะ อย่าทำอะไรบาดหูบาดตาที่นี่เลย!” หลินวี่ยกแก้วขึ้นและหันไปทางพวกเขาทั้งสองคน
เป้ยฉ่ายเวยหน้าแดง หลี่จื่อเชียนก็ยิ้มเจื่อนๆ
ดวงตางดงามของผู้จัดการจ้าวเหลียวมา “ไม่ทราบว่าคุณเป้ยและผู้อำนวยการหลี่คุยอะไรกัน มีเรื่องอะไรน่ายินดีรึเปล่า บอกให้พวกเราได้ร่วมดีใจกันด้วยเถอะ”
หลี่จื่อเชียนสีหน้าเหนื่อยหน่าย “ไม่มีอะไร คุยกันเรื่องงานแต่งน่ะ”
“ผู้อำนวยการหลี่จะแต่งงานแล้วรึ”
“ยินดีด้วยยินดีด้วยค่ะ”
“ผู้อำนวยการหลี่ชวนไปทานขนมแต่งงานด้วยนะ”
ผู้จัดการจ้าวยิ่งดูหน้าเสียกว่าเดิมเข้าไปอีก
เป้ยฉ่ายเวยดึงชายเสื้อหลี่จื่อเชียน เธอรู้สึกถึงความอัปยศ
หลี่จื่อเชียนยิ้มไม่มีอะไรจะพูดอีก ตลอดเวลาเขาคอยปอกเปลือกกุ้งและตักกับข้าวให้เป้ยฉ่ายเวย แน่นอน ในสายตาทุกคนนั่นเป็นการแสดงออกถึงความรัก
หลังจากบรรยากาศเริ่มซาแล้ว เขาปฏิเสธเพื่อนร่วมงานหลายคนที่คิดที่จะอยู่ต่อ หลี่จื่อเชียนพาเป้ยฉ่ายเวยขับรถไป
หลายคนก็ยังอยากจะอยู่ต่อ ส่วนที่กลับบ้านก็กลับกันไป หลินวี่ก็แสดงท่าทีว่าต้องการจะกลับบ้าน
หลินวี่เจตนาติดรถเพื่อนร่วมงานหญิงไปด้วย เธอโทรหาคุณพ่อหลี่
“คุณอาหลี่ แผนการล้มเหลวแล้วค่ะ! ไม่ใช่หนูไม่ช่วยคุณลุงนะคะ แต่ว่าพ่อจื่อเชียนตัวแสบดูเหมือนจะหลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว” พูดแล้วหลินวี่ก็ถอนหายใจ
คุณพ่อหลี่ไม่เข้าใจหลี่จื่อเชียนเลยจริงๆ ถ้าหากว่าเขาเกิดไม่สนใจอะไรแล้วจริงๆ ไม่แน่ว่าอาจจะพาเป้ยฉ่ายเวยหนีออกจากเมืองจิ่นอันไป ถึงตอนนี้เขาคงควบคุมอะไรไม่ได้แล้ว เขาเลยแอบเตรียมแผนการเอาไว้ เพื่อที่จะทำให้พวกเขาเลิกกันไปเอง
หลินวี่ก็เป็นหนึ่งในคนที่เธอเลือกเตรียมการเอาไว้
มีสายตาแห่งความรุนแรงในแววตาของคุณพ่อหลี่
“มันว่ายังไง”
หลินวี่บรรยายเหตุการณ์เรื่องราวในตอนบ่ายวันนั้นให้คุณพ่อหลี่ฟัง สุดท้ายยังบอกอีกว่า “หนูรู้ว่าถ้าพูดแบบนี้คุณอาหลี่อาจจะไม่อยากฟัง แต่ว่าคุณอาหลี่ จื่อเชียนถึงจะเป็นลูกชายของคุณลุง แต่ว่าเขาก็มีความคิดของตัวเอง อีกอย่างวันนี้หนูก็เห็นคุณเป้ยนั่นแล้ว เธอก็ดูไม่เลวเลยนะคะ”
“อ้า เด็กน้อยเอ๋ย อาเกรงว่าหนูจะเห็นว่าหน้าตาดีก็คิดว่าคนไม่เลวแล้วน่ะสิ” คุณพ่อหลี่ยิ้มแหยๆ น้ำเสียงเห็นเป็นเรื่องน่าขัน
หลินวี่ “...”
โอ้ หน้าตาดีก็ผิดหรอนี่
พอวางสายไป คุณพ่อหลี่ก็ทำหน้ามู่ทู่
คราวก่อนก็ไปเตรียมแหวนแต่งงาน คราวนี้ก็พูดเรื่องแต่งงานกับสาธารกรรมกำนัลอีก ดูเหมือนเจ้าลูกคนนี้จะหลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วจริงๆ!
คุณพ่อหลี่หรี่ตาลง ดูเหมือนว่าถ้าช้าจะไม่ได้การแล้ว!
วันรุ่งขึ้น เป้ยฉ่ายเยและหลี่จื่อเชียนตั้งใจว่าจะไปจดทะเบียนกัน
นี่เป็นการตัดสินใจหลังจากกลับไปจากเรื่องเมื่อวานนี้
หลี่จื่อเชียนเอ่ย “เวยเวย ที่ผมพูดในร้านอาหารผมจริงจังนะ เราน่าจะจดทะเบียนกันเลย”
เป้ยฉ่ายเวยยังประหม่าและลังเล
เหตุและผลบอกเธอว่าถึงเวลาจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจแล้ว
อีกอย่างจนถึงตอนนี้ก็มีเพียงการแต่งงานกับหลี่จื่อเชียนเพียงทางเดียวเท่านั้น
แต่ว่าความรู้สึกก็ยังคอยฉุดรั้งเธอเอาไว้อยู่ตลอดเวลา ราวกับเสียงหัวใจเธอลึกๆกำลังจะบอกว่า อย่าทำให้ตัวเองเสียใจในภายหลังไปทั้งชีวิต
แต่ว่าหลังจากที่กลับถึงบ้านแล้วเห็นเอกสารหมายศาลมาถึง เป้ยฉ่ายเวยก็ตกใจ เวลาของเธอหมดลงแล้ว!
ดังนั้น ระหว่างที่ทานอาหารเช้า เป้ยฉ่ายเวยก็เอ่ยปากขึ้นจนทำเอาหลี่จื่อเชียนตกใจอ้าปากค้าง
“จื่อเชียน เราไปจดทะเบียนกันเถอะ”
คำเดียวเท่านั้น หลี่จื่อเชียนก็โทรลางานในทันที และพาเธอไปยังสำนักงานเขต
ระหว่างทาง หลี่จื่อเชียนก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ว่าเขาก็ยังแสดงออกอย่างสงบนิ่ง
เป้ยฉ่ายเวย “....คุณไม่เป็นไรใช่มั๊ย”
ไม่รู้ว่าทำไม เธอรู้สึกตลอดเวลาว่าเขาอยากขับรถให้พลิกคว่ำไป
บ้าบอ เธอก็ยังนั่งอยู่ในรถ หลี่จื่อเชียนส่ายหัว พร้อมใบหน้าแห่งความยินดี “ผมแค่คิดไม่ถึง ว่าคุณจะตัดสินใจได้ไวขนาดนี้” “ถ้าหากคุณคิดว่าเร็วเกินไป เราค่อยกลับไปปรึกษากันใหม่ก่อนก็ได้นะ” เป้ยฉ่ายเวยจ้องเขาอย่างประหลาดใจก่อนจะออกปากพูด หลี่จื่อเชียน “...” “ไม่ ผมรอเวลานี้มานานแล้ว!” บางทีอาจเพราะการแสดงออกซึ่งดูเคร่งเครียดเกินไปของเขา ทำเอาเป้ยฉ่ายเวยระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เธอพยักหน้า “โอเค ฉันรู้แล้ว ตอนนี้ คุณทำอารมณ์สบายๆเถอะ ฉันไม่อยากให้รูปจดทะเบียนสมรสครั้งเดียวในชีวิตจะออกมาดูน่าเกลียด” “วางใจเถอะ เกิดมาหล่อ ทำยังไงก็หล่อวันยังค่ำ” หลี่จื่อเชียนเริ่มมีอารมณ์ขัน เป้ยฉ่ายเวยกรอกตามองบน หน้าไม่อายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ใกล้ๆสำนักงานเขตจะมีถนนสายเล็กอยู่สายหนึ่ง โทรศัพท์หลี่จื่อเชียนอยู่ๆก็ดังขึ้น มันทำลายบรรยากาศอันอบอุ่นระหว่างคนทั้งคู่ ไม่รู้ทำไม หัวใจเป้ยฉ่ายเวยเต้นตึกตัก ราวกับมีลางสังหรณ์ใจไม่ดีสักอย่าง หลี่จื่อเชียนขมวดคิ้ว มองไปยังหมายเลขตรงหน้า ก่อนที่จะกดตัดสายอย่างไว เสียงเรียกเข้าดังขึ้นอีกครั้งในทันที คนทั้งคู่ถอนหายใจโดยจิตใต้สำนึก วินาทีต่อมา เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้งอย่างสิ้นหวัง
copy right hot novel pub