โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่464 ใครกันที่เห็นแก่ตัว

บทที่464 ใครกันที่เห็นแก่ตัว

เป้ยฉ่ายเวยจ้องกลับไป ราวกับว่าได้รับพลังกล้าหาญจากลูกชาย เธอไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยสักนิด

“เห็นกล้าแบบนี้ก็ดี” ฉูเจ๋อหยางหัวเราะเบาๆ มือก็เอื้อมออกไปลูบหัวเป้ยฉ่ายเวยเหมือนกับที่ทำกับรุ่ยรุ่ย

เป้ยฉ่ายเวยหน้าร้อนผ่าว

อยู่ๆรุ่ยรุ่ยก็วิ่งไป เขาอุ้มกระติกน้ำร้อนมาจากบนโต๊ะ “แม่ครับ นี่เป็นซุปที่คุณย่าให้อาอี๋ต้มให้ อร่อยดี แม่ลองทานเร็วเข้า”

เป้ยฉ่ายเวยอมยิ้ม ในใจรู้สึกถึงความอบอุ่น

เธอเปิดกระติกน้ำร้อน ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอบอวล

รุ่ยรุ่ยทำจมูกฟุตฟิต ปากขยับไปมา เขาจ้องซุปในมือเป้ยฉ่ายเวยไม่วางตา

ไม่ได้ นี่ต้องให้แม่ทานนะ

คุณย่าบอกว่าแม่ร่างกายไม่แข็งแรง ต้องได้รับการบำรุง!

ดวงตาสีเข้มของชายร่างเล็กเจือจางลง เขาพยายามบังคับให้ตัวเองไม่แสดงให้เห็นเด่นชัด แต่ว่าใจมันก็รังแต่จะคอยเรียกร้อง

เป้ยฉ่ายเวยขำหนักมาก “ลูกทานเถอะ”

“แม่…” มุมปากรุ่ยรุ่ยเม้มแน่น ตาแทบจะไม่ลืม เขามีปณิธานแน่วแน่ “ไม่ได้! คุณย่าบอกว่านี่ต้องให้แม่ทาน รุ่ยรุ่ยอยากให้แม่รีบหายเร็วๆ ดังนั้นจะแย่งของแม่ทานไม่ได้”

เป้ยฉ่ายเวยโค้งศีรษะลง ก้มลงพูดกับเขาว่า “ถ้าอย่างนั้นรุ่ยรุ่ยก็ช่วยแม่ชิมหน่อยว่ามันร้อนรึเปล่าดีมั๊ยล่ะ”

รุ่ยรุ่ยทำท่าคิดอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น

จากนั้นเป้ยฉ่ายเวยก็ยื่นมือไปให้เขาจิบ

เขาพูดขึ้นอย่างขึงขัง “กำลังดี!”

“เด็กโง่เอ้ย!” ฉูเจ๋อหยางยิ้มเยาะพร้อมส่ายหัว

เจ้าลูกชายนี่ไม่ทันคนเอาซะเลย

เมื่อเป้ยฉ่ายเวยได้ยินก็ถลึงตาใส่เขา

ฉูเจ๋อหยางหันไป เขาหยิบเอกสารที่เพิ่งส่งมาขึ้นดู ไม่สนใจแม่ลูกงี่เง่าสองคนนี้แล้ว

สุดท้าย ซุปหอมๆน้ำก็ลงท้องรุ่ยรุ่ยไปจนได้

เจ้าตัวแสบกินจนท้องกลมป่อง ยังปีนขึ้นไปบนตัวเป้ยฉ่ายเวยอีก เขาฟ้องว่าหลายวันนี้ฉูเจ๋อหยางทำให้เขาทุกข์ทนมานแค่ไหน และเขาคิดถึงแม่แค่ไหน

เมื่อได้ยินแล้วเป้ยฉ่ายเวยก็โอ๋ใหญ่ ฉูเจ๋อหยางอยากจะตีคนนัก

สุดท้าย ก็โมโหลูกชายตัวเองสุดๆจนต้องเปิดประตูสะบัดตูดหนีไป

รุ่ยรุ่ยลุกขึ้นยืน ทำหน้าทำตา “แม่ครับ แม่ไม่ต้องการรุ่ยรุ่ยอีกต่อไปแล้วใช่มั๊ย”

เป้ยฉ่ายเวยอึ้งไป เธอเอาร่างนุ่มนิ่มของเขาเข้ามากอด “รุ่ยรุ่ยเอาที่ไหนมาพูด แม่รักลูกออกอย่างนั้น จะไม่ต้องการรุ่ยรุ่ยได้ยังไงกัน!”

“แต่ว่าแม่ไม่มาหารุ่ยรุ่ยตั้งหลายวันแล้ว แม่บอกว่าจะรีบมารับรุ่ยรุ่ยไม่ใช่หรอครับ” รุ่ยรุ่ยทำปากจู๋

เป้ยฉ่ายเวยเงียบพูดไม่ออก

เธอทำท่าทางเลิ่กลั่ก

เมื่อเห็นแม่เป็นอย่างนี้ รุ่ยรุ่ยก็เศร้าลงอีกครั้ง

เขาก้าวไปข้างหน้าและเกาะแขนแม่ไว้ พร้อมพูดอย่างร้อนใจ “แม่ครับผมไม่ได้ว่าแม่ รุ่ยรุ่ยแค่คิดถึงแม่มากเท่านั้น รุ่ยรุ่ยกลัวว่าแม่จะไม่รักรุ่ยรุ่ยแล้ว”

“เด็กโง่ แม่ไม่เคยคิดอยากได้อะไรอื่น มีเพียงรุ่ยรุ่ยเท่านั้นที่แม่ต้องการ แต่ว่าตอนนี้ยังถึงเวลา รุ่ยรุ่ยวางใจนะ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็แล้วแต่ แม่จะต้องอยู่ข้างๆรุ่ยรุ่ยแน่นอน” เป้ยฉ่ายเวยสัมผัสเส้นผมอันอ่อนนุ่มของเขา หอมเขาที่หน้าผาก ด้วยหัวใจอันอ่อนโยน

ฉูเจ๋อหยางเป็นฮีโร่ไปช่วยเธอไว้ได้ทันการณ์พอดี จากโรงงานร้างก็พาเธอไปที่โรงพยาบาล ทั้งยังอบอุ่นอ่อนโยน นั่นเกือบจะทำให้เธอลืมช่องว่างระหว่างพวกเขาไปจนหมดแล้ว

แค่เพียงว่าแต่เดิมเธอคิดว่าถ้าหากว่าแต่งงานกับหลี่จื่อเชียนก็จะสามารถชนะคดีได้ แต่ตอนนี้ดูแล้ว เรื่องแต่งงานคงต้องพักไว้ก่อน

เป้ยฉ่ายเวยหลับตาลง ทุกครั้งที่สัมผัสกับเส้นผมของรุ่ยรุ่ย เธอสัมผัสมันด้วยความทะนุถนอมราวกับกำลังจับทารกที่มีค่ามากที่สุดในโลกก็ไม่ปาน

ฉูเจ๋อหยางเดินออกจากไปจากห้อง ชายที่เคาะประตูเดินเข้าพร้อมลูบจมูก

เขาจ้องเขม็งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนฉูเจ๋อหยางจะเปิดปาก “มีเรื่องอะไรด่วน”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่อยากถาม เรื่องอาซ้อ พี่ใหญ่จะให้เตรียมจัดการยังไง” เจี่ยงเสี่ยวเล่อกำมือพร้อมกระแอมหนึ่งที ก่อนจะถามฉูเจ๋อหยาง

นัยน์ตาฉูเจ๋อหยางลุ่มลึก แสงส่องประกายวาบจนคนแทบตามไม่ทัน

ริมฝีปากบางเฉียบเผยอออก “ตอนนี้หลี่จื่อเชียนยังอยู่ข้างนอกรึ”

“ใช่ ตั้งแต่ตานั่นตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วพบว่าอาซ้อถูกรถชนและถูกเอาตัวไป เขาก็ยืนรออยู่ที่บันไดตลอด ถ้าไม่ใช่คนของเรามีวิชาล่ะก็ ไม่น่าจะหยุดเขาไว้ได้” เจี่ยงเสี่ยวเล่อเดินตามเขาออกไปข้างนอก

ฉูเจ๋อหยางพ่นลมหายใจ

จากนั้นก็เดินตรงไปยังลิฟต์

หลี่จื่อเชียนไม่ได้พักผ่อนดีๆเป็นเวลาหลายวัน

เพราะว่าหลายวันนี้มัวแต่สงสัยว่าฉูเจ๋อหยางเอาตัวเวยเวยไป ที่อยากรู้ก็คือว่าเรื่องมันเป็นมายังไง แต่เนื่องจากถูกตัดขาดความสัมพันธ์กับคนทางบ้านหลี่ในตอนนี้ ในที่สุดก็ให้คนคุ้นเคยช่วยตรวจสอบให้ได้

เขาถึงได้รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเป้ยฉ่ายเวย

เพราะว่ากังวล เป็นห่วงกลัวว่าช่วงนี้ฉูเจ๋อหยางจะใช้กลอุบายอะไรมาเปลี่ยนใจเธอเรื่องแต่งงาน หลายวันนี้เขาก็สิงอยู่แต่ที่โรงพยาบาล

น่าเสียดาย ไม่รู้ฉูเจ๋อหยางไปได้บอดี้การ์ดมาจากไหน ล้อมรอบไปทั่วแบบนี้ เขาไม่มีโอกาสได้เจอเวยเวย

นั่งลงถัดจากลิฟต์ ครั้งหนึ่งเคยหล่อเหลาอย่างเจ้าชาย ตอนนี้ไม่สนใจภาพลักษณ์อะไรของตัวเองทั้งนั้น นั่งเอนพิงกำแพง ฝ่ายตรงข้ามก็เป็นเหมือนผู้คุมซึ่งของจ้องมองเขาอยู่

ทันใดนั้น เสียงรองเท้าหนังเคาะพื้นก็ดังขึ้นทำให้เขามองตามไป

ตามมาด้วยสูงยาวคู่หนึ่ง ชายคนนั้นมองเข้าด้วยสีหน้าไม่แยแส

“ฉูเจ๋อหยาง!” หลี่จื่อเชียนกระโดดเด้งขึ้น ฉูเจ๋อหยางหันตามไป สายตายียวน “เพิ่งเคยจะเห็นทายาทตระกูลหลี่ วันนี้สารรูปกลายเป็นแบบนี้ หลี่จื่อเชียน ผมมองคุณสูงส่งเกินไปใช่รึเปล่า” “เพื่อเวยเวย ผมเต็มใจอย่างยิ่ง!” หลี่จื่อเชียนยิ้มเย้ย ตาเป็นเปลวเพลิง ฉูเจ๋อหยางหัวเราะหึหึ “อย่าโทษคนอื่นเพราะความโง่เขลาของตัวเองหน่อยเลย คุณทำเพื่อเวยเวยอย่างนั้นหรอ หรือทำเพื่อตัวเอง!” “ฉูเจ๋อหยาง คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้ คุณต่างหากที่เป็นไอ้บ้าที่เห็นแก่ตัวที่สุด! คุณรู้จักความรักด้วยหรอ ผมรักเวยเวย ผมจึงไม่สนใจว่าตัวเองจะกลายยังไง ผมไม่แคร์ มีแค่คนที่เหยียบเรือสองแคมแบบคุณเท่านั้นที่รังแต่จะนำพาความทุกข์ใจมาให้เวยเวย” หลี่จื่อเชียนยืนตรงขึ้นพูด พร้อมจ้องไปยังคู่กรณี ทั้งสองสูงใกล้เคียงกัน หล่อเหลาพอๆกัน ลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน เผชิญหน้ากัน พายุมาฟ้าฝนนองเลือด ทำให้คนรอบๆไม่กล้าเปล่งเสียงใดๆ ตาเจี่ยงรองทำราวกับเพิ่งได้ดูละครชั้นดี ตอนนี้เขาเปลี่ยนทัศนคติอย่างไม่เป็นทางการ เขาจ้องหลี่จื่อเชียนอย่างอัศจรรย์ใจ เจ้าคนนี้เมื่อเทียบกับฉูเจ๋อหยางแล้วออร่าก็พอไปได้ ยิ่งวันเวลาล่วงไป ดูแล้วก็แซ่บไม่เบานะ! สีหน้าฉูเจ๋อหยางไม่เปลี่ยน เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองผ่านสายตาเขาไป จะเห็นความดื้อรั้น ทันใดนั้น มุมปากฉูเจ๋อหยางก็ยกขึ้น พร้อมกับน้ำเสียงเฉื่อยชา “อ้อ เพื่อเป้ยฉ่ายเวยคุณทำอะไรก็ได้อย่างนั้นรึ” “ใช่สิ!” หลี่จื่อเชียนพูดสองเสียงอย่างหนักแน่น ฉูเจ๋อหยางกระพริบตาปริบๆ พร้อมพยักหน้าอย่างพึงใจ “ดีมาก ถ้าอย่างนั้นผมมีปัญหาข้อหนึ่งต้องการแก้ไขอย่างจริงจัง ผมอยากจะถาม ว่าคุณหลี่มีความคิดเห็นยังไง” เขาอมยิ้ม มีความอาฆาตพยาบาทเล็กๆปนอยู่ในนั้น

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์