บทที่ 471 ศึกชิงรักหักสวาท
หลังจากที่วางโทรศัพท์ ลิ่วเอ่อร์ก็ทำท่าครุ่นคิด จากนั้นก็ตามหนานฉิงไป
เมื่อขึ้นมาบนรถ หนานฉิงก็บ่นยกใหญ่ “ช้าจะตายชัก คุยโทรศัพท์อะไรนานขนาดนั้น เสียเวลาฉันไหม”
“ผมผิดเองๆ!” ลิ่วเอ่อร์ยิ้มบางๆ จากนั้นก็พูดเอาใจขึ้นว่า “เพื่อแสดงความขอโทษ งั้นเดี๋ยวผมจะพาคุณหนูไปที่ที่สนุกที่หนึ่ง เป็นไงครับ?”
“ที่ที่สนุก?” หนานฉิงเบนสายตามองอย่างว่าสนใจ
เธอมักจะคุยโวมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนเที่ยวเก่ง ถึงเธอจะเพิ่งกลับจากต่างประเทศได้ไม่นาน แต่ก็เคยไปสถานที่ที่สนุกๆในเมืองจิ่นอันมาหมดแล้ว แต่สถานที่ที่ลิ่วเอ่อร์เคยพาเธอไปในช่วงนี้ กลับสนุกกว่าทั้งยังเปิดโลกเธอกว้างกว่าตั้งเยอะ อีกอย่างสถานที่เหล่านั้นต่างซ่อนอยู่ในที่ลับตาคนเป็นที่ๆคนทั่วไปคงนึกไม่ถึงแน่
บนใบหน้าของลิ่วเอ่อร์ปรากฏแววขำขัน “ถ้าถึงแล้วเดี๋ยวคุณก็รู้เอง”
จนสุดท้าย ทั้งสองจึงมาหยุดอยู่บริเวณหนึ่งซึ่งการพัฒนาไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่
บริเวณโดยรอบมีตึกสองตึกที่ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ดูสกปรกและรกรุงรัง อีกอย่างในบริเวณนี้นอกจากจะมีแค่คนงานก่อสร้างแล้ว ก็ไม่มีใครคนอื่นอีกเลย
เมื่อหนานฉิงลงจากรถก็ขมวดคิ้วมุ่น “ที่บ้าอะไรเนี่ย แกคงไม่ได้พาฉันมาผิดหรอกใช่ไหม?”
“ไม่ผิดแน่นอนครับ เรื่องสนุกๆมันมักจะซ่อนอยู่ในที่แบบนี้ล่ะครับ เพราะฉะนั้นคุณหนูตามผมมาน่ะถูกแล้วครับ” ลิ่วเอ่อร์ยิ้มพร้อมกับก้าวเท้าไปข้างหน้าเร็วๆ
หนานฉิงจนใจ จึงทำได้แค่เดินตามเขาไป
ชุดกระโปรงสวยๆที่เธอใส่มา ทั้งผิวพรรณเนียนละเอียดของเธอ ช่างไม่เข้ากับบรรยากาศเอาซะเลย รอบๆมีแต่คนงานชายฉกรรจ์ห้าหกคนที่ดูป่าเถื่อนเอามากๆ แต่ละคนต่างก็เหลียวมองเธอ อย่างกับไม่เคยเห็นผู้หญิงสวยๆอย่างเธอมาก่อน
หนานฉิงขนลุก สายตาของผู้ชายพวกนี้ทำให้เธอสะอิดเอียนจนเทียบอวก
หนานฉิงเดินเข้าไปจับลิ่วเอ่อร์ไว้ ทำแบบนี้ค่อยอุ่นใจขึ้นมาบ้าง
มุมปากของลิ่วเอ่อร์ยกยิ้ม รอยมีดบาดบนใบหน้าก็ดูเหมือนจะยิ่งเจิดจ้าชัดเจนยิ่งกว่าเดิม
เดินเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จากนั้นก็ต้องเดินผ่านบริเวณที่คล้ายๆกับสลัม เห็นแบบนี้หนานฉิงก็ไม่อยากจะไปต่อแล้ว
เธอจึงหยุดนิ่งอยู่กับที่ “ลิ่วจื่อ ที่นี่มันที่ไหนกันแน่? ฉันไม่อยากเดินต่อแล้ว! เรากลับกันเถอะ”
“อีกไม่ไกล ก็จะถึงแล้วนะครับ” ลิ่วเอ่อร์พูดให้คลายกังวล
แต่หนานฉิงกลับมองเขาด้วยสายตาดื้อด้าน บ่งบอกว่าไม่อยากจะเดินต่อไปแม้แต่ก้าวเดียว
ทันใดนั้นเอง ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากซอยเล็กๆอีกซอย แต่งตัวด้วยชุดเดรสสีเหลืองอำพัน สวยงามดึงดูดสายตา และการแต่งตัวของเธอก็ไม่เข้ากับบรรยากาศของที่นี่เหมือนหนานฉิงเป๊ะ
ไม่เหมือนกันที่หนานฉิงกำลังโกรธลิ่วเอ่อร์ ส่วนผู้หญิงคนนั้นกลับตาเป็นประกายเหมื่อนเห็นลิ่วเอ่อร์
ผู้หญิงคนนั้นวิ่งช้าๆเข้ามาหา ในตาแดงก่ำไปหมด “ลิ่วเอ่อร์ ในที่สุดฉันก็หานายเจอ ทำไมนายจะไปไหนก็ไม่บอกกันสักคำเลยล่ะ ฉัน....ฉันคิดถึงนายนะ”
หนานฉิงหรี่ตามอง ยืนกอดอกมองหญิงสาวตรงหน้า
ลิ่วเอ่อร์ขมวดคิ้ว “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เมื่อถูกถามแบบนี้ เสิ่นชีชีก็ตบอกตัวเองปุ๊ๆอย่างภูมิใจ “ฉันมาที่นี่เองแหละ พี่ห้ามไม่ให้ฉันเจอนาย ยังบอกอีกว่านายมีธุระต้องรีบไปทำ แต่ไม่เป็นไร ฉันมีวิธีของฉัน ฉันรู้ว่านายมีเพื่อนสนิทอยู่ที่นี่ ตอนแรกก็กะว่าจะมาถามว่าเขารู้หรือเปล่าว่านายอยู่ที่ไหน แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอนายเอง ดีสุดๆไปเลย!”
ลิ่วเอ่อร์ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไปดี
ตอนแรกที่ตีสนิทกับเสิ่นชีชีก็เพราะว่าอยากจะใช้เธอเป็นสะพานเพื่อข้ามไปหาเสิ่นลั่ง
คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนซื่อตรงขนาดนี้
“คิดไม่ถึงเลยนะเนี่ยว่าคุณหนูที่เปรียบเสมือนเจ้าหญิงแห่งตระกูลเสิ่นที่ยิ่งใหญ่จะถึงกับต้องลดตัวลงมาตามหาบอดี้การ์ดไกลถึงขนาดนี้ ลิ่วจื่อ แกไม่ซาบซึ้งบ้างหรือไง?”
หนานฉิงกอดอก พูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
เธอว่าความจำเธอก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ยังไงก็ต้องจำเสิ่นชีชีได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าเสิ่นลั่งจะไม่ค่อยอยากให้น้องสาวปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนซักเท่าไหร่ แต่ในฐานะที่เธอเป็นลูกสาวของหนานเทียนหยาง และเคยไปร่วมบรรดางานเลี้ยงก็ออกจะบ่อย เพราะฉะนั้นเธอก็ต้องมีภาพจำของเจ้าหญิงแห่งตระกูลเสิ่นในหัวเยอะอยู่แล้ว
ราวกับเสิ่นชีชีพึ่งจะสังเกตเห็นเธอ บุคลิกที่ดูปราดเปรียวและดูไม่เป็นมิตรของผู้หญิงตรงหน้า ทำให้เกราะป้องกันในตัวของเธอลุกพรึบขึ้นมาเป็นทันที “คุณเป็นใคร? ลิ่วเอ่อร์ นายมากับเธอได้ยังไง?”
“ชีชี ถ้าไม่มีอะไรแล้วคุณกลับไปก่อนนะ ถ้าผมว่างผมจะไปหา ตอนนี้ผมกับคุณหนูยังมีธุระที่ต้องไปทำอยู่ ต้องขอตัวก่อน” ในแววตาของลิ่วเอ่อร์ปรากฏแววลังเลขึ้นมาเพียงชั่วครู่ แต่พอคิดได้ว่าตอนนี้เขาต้องภักดีต่อเสิ่นลั่ง จึงทำได้แค่พูดออกไปแบบนี้
เสิ่นชีชีทำหน้าเจ็บปวด ที่เขาเลือกแบบนี้ก็เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แล้วนอกจากความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไป
หนานฉิงแสยะยิ้ม “เจ็บปวดน่าดูเลยสินะสาวน้อย แต่อย่าเข้าใจผิดไปล่ะ ผู้ชายแบบนี้ฉันไม่มีทางชายตามองหรอก อีกอย่างฉันก็มีคู่หมั้นแล้ว ผู้ชายคนนี้เป็นแค่บอดี้การ์ดของฉันเท่านั้นแหละ เธอสบายใจได้”
“คุณอย่ามามั่ว ลิ่วเอ่อร์เก่งขนาดนี้ จะไปเป็นบอดี้การ์ดของคุณได้ยังไง?” เสิ่นชีชีมองเธอด้วยสายตาโกรธๆ ไม่พอใจที่เธอพูดอย่างกับลิ่วเอ่อร์ไม่ดีนักหนา
ดวงตาของลิ่วเอ่อร์ขุ่นมัวเพียงแค่ชั่วแวบ จากนั้นก็เอ่ยปาก “ช่างเถอะ ชีชีคุณกลับไปก่อน!”
“ลิ่วเอ่อร์.....”
“กลับไป!” ลิ่วเอ่อร์ขึ้นเสียง
เสิ่นชีชีสะอื้นฮัก
ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีใครตะคอกเสียงดังกับเธอเลย เพราะว่าเป็นตระกูลเสิ่น เพราะความรักที่เสิ่นลั่งมีต่อเธอ เธอจึงถือเป็นเจ้าหญิงน้อยของตระกูลไปโดยปริยาย
กว่าเธอจะชอบใครสักคนก็ไม่ใช่ว่าจะชอบได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้เธอกลับถูกคนที่ชอบตะคอกใส่เพราะผู้หญิงอีกคน ดังนั้นตอนนี้เธอจึงร้องไห้วิ่งจากไปลำพัง
ลิ่วเอ่อร์หันเหสายตากลับมา “คุณหนู ไปกันเถอะครับ!”
“นิ่งอะไรขนาดนี้? คนรักของแกวิ่งร้องไห้ออกไปเลยนะ แกจะไม่ตามไปปลอบหน่อยหรอ?” หนานฉิงเลิกคิ้ว
ลิ่วเอ่อร์ยิ้ม “คุณหนูเข้าใจผิดแล้วครับ”
“งั้นหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด นั่นมันเจ้าหญิงน้อยแห่งตระกูลเสิ่นเลยหนิ ถ้าแกได้แต่งงานกับเธอ ชีวิตอาจจะดีกว่าการเป็นบอดี้การ์ดเยอะเลยนะ ไม่หวั่นไหวจริงๆน่ะหรอ?” หนานฉิงพูดกระเซ้า
แววตาของลิ่วเอ่อร์ผสมปนเปไปด้วยแววหยอกล้อและความรู้สึกลึกๆ “คุณหนู คุณหนูมองไม่ออกจริงๆหรอว่าผมคิดยังไง?”
ในในจของหนานฉิงพอใจเอามากๆ
เธอยอมรับว่าเธอชอบฉูเจ๋อหยางมากๆ แต่การที่มีผู้ชายมาคอยไล่ตามชอบตามจีบ มันก็มักจะทำให้เธอรู้สึกดีอยู่บ่อยๆ
เธอปรายตามองลิ่วเอ่อร์แบบผ่านๆ ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอารมณ์เสียแล้ว ทั้งยังยอมเดินตามลิ่วเอ่อร์แต่โดยดี ลิ่วเอ่อร์แอบแสยะยิ้มในใจ สิบนาทีผ่านไปก็มาถึง หนานฉิงมองตึกตรงหน้าอย่างสงสัย “ที่ๆสนุกที่แกหมายถึงก็คือที่นี่น่ะหรอ?” “ใช่ครับ” ลิ่วเอ่อร์ตอบกลับ “มีอะไรน่าสนุก? ตึกเก่าๆพังๆเนี่ยนะ?” หนานฉิงขมวดคิ้ว ราวกับไม่พอใจ ลิ่วเอ่อร์ยิ้มเย็น “ไม่เข้าไปข้างในแล้วจะรู้ได้ไงครับ?” ต่อมา เขาก็ผลักหนานฉิงที่ใส่รองเท้าส้นสูงเข้าไปข้างใน เธอสะดุดที่กั้นตรงประตู จากนั้นทั้งร่างก็ล้มลงไปนอนแผ่กับพื้น “โอ๊ย......” หนานฉิงเจ็บจนต้องซี๊ดปาก ตอนที่เตรียมที่จะพ่นคำด่าใส่คนด้านหลังด้วยความโกรธ เธอก็เห็นว่าลิ่วเอ่อร์กำลังแสยะยิ้มเย็นๆส่งมา ราวกับเปลี่ยนจากคนดีๆไปเป็นปีศาจ หัวใจของเธอเหน็บชา ความรู้สึกหวาดกลัวเริ่มตีรวนขึ้นมา “ลิ่วจื่อ แก....” “เฮียลิ่ว นี่หรอคุณหนูตระกูลหนาน? หน้าตาก็ดูงั้นๆหนิ” ผู้ชายที่ดูเหมือนอันธพาลคนหนึ่งเดือนออกมาจากข้างใน แต่งตัวซกมก หนวดเครารุงรัง ในดวงตาเผยแววร้ายกาจออกมา จนทำให้คนมองขนลุกพองสยองเกล้าหนานฉิงสั่นเทิ้ม จากนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดมากๆที่ตามเขามา
copy right hot novel pub